วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

กิมกะสิน - 九天巡狩金甲神

jinjiashen-01

ในคติความเชื่อตามศาสนาเต๋านั้น กิมกะสิน หรือ ขุนพลสวรรค์เกราะทอง จะรู้จักกันในฐานะของขุนพลผู้พิทักษ์ของเทพเจ้าหยกหองไต่เทียนจุน (玉皇大天尊) หรือในฐานะของผู้ช่วยของส่ำเช้งนั้นเอง (三清道祖)

 ภาระกิจของเทพเจ้ากิมกังสินในคติความเชื่อศาสนาเต๋า
 
จากบันทึกที่ปรากฎในการทำพิธีกรรมทางเต๋านั้น กิมกังสิน คือหนึ่งในเทพเจ้าที่มีความสำคัญ และต้องทำการอัญเชิญมาสถิตย์ ก่อนจะเริ่มทำพิธีใดๆ โดยเทพเจ้ากิมกังสินจะได้รับการอัญเชิญมาเพื่อดูแลในเรื่องขอการแจ้งฎีกาหรือบอกล่าวให้โลกแห่งเทพได้รับรู้ โดยเฉพาะหยกหองไต่เทียนจุน หรือ ส่ำเช้งโตจ้อ และนอกจากนี้ กิมกังสินยังมีหน้าที่ในการประกาศราชโองการต่างๆจากหยกหองไต่เทียนจุน หรือ ส่ำเช้งโตจ้อให้โลกแห่งเทพและโลกมนุษย์ได้รับรู้อีกด้วย
บางครั้งเราจะเห็นกิมกังสินอยู่คู่กันกับ จูบุ๋นกง (朱文公) หรือ ขุนพลสวรรค์กังฮุยเจียด (江飛捷仙官)  เพราะเทพทั้งสามนี้มีหน้าที่ดูแลเรื่องงานเอกสารต่างๆโดยตรงครับ

ความเป็นมาของเทพเจ้ากิมกังสิน

ได้มีการบันทึกไว้ว่า กิมกังสินนั้นคือรูปแบบหนึ่งของพลังงานธาตุทองที่เกิดขึ้นในขณะที่เริ่มมีการแยกระหว่างโลกและสวรรค์เมื่อครั้งอดีตกาล และเมื่อมีการอุบัติขึ้นของกิมกังสินในตอนเริ่มแรกนั้น ท่านยังได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ในโลกของเทพเจ้าด้วย แต่ก็มีเรื่องเล่ากันว่า บรรดาศักดิ์ของท่านโดยถอดโดยไซอ๋องโบ้ (瑤池金母) และโดนให้ลงมาเกิดใหม่บนโลกมนุษย์ ด้วยเรื่องราวนี้ทำให้เชื่อกันว่านักบวชเต๋ามักจะไม่วางรูปเคารพของเทพเจ้าไซอ๋องโบ้ และกิมกังสินติดกันหรือใกล้กันครับ และชาวจีนก็ยังเชื่ออีกว่าแมลงเต่าทองคือร่างของกิมกังสินที่ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ในตอนนั้นอีกด้วยครับ


กิมกังสินกับประวัติศาสตร์จีน

ได้ปรากฎร่องรอยของกิมกังสินในประวัติศาสตร์จีน มาตลอดตั้งแต่สมัยของอึ่งเต่ (黃帝), สมัยราชวงศ์ถัง, สมัยราชวงศ์ซ้อง, สมัยราชวงศ์หมิง หรือแม้นกระทั่งในสมัยราชวงศ์ชิงนี่เอง และที่เป็นเรื่องเล่ากันอย่างเพร่หลาย คือในสมัยหมิง หลังจากปฐมจักรพรรดิจูหยวนจาง (明太祖朱元璋) สถาปนาราชวงศ์หมิง จูหยวนจางก็ต้องการจะสร้างพระราชวัง และได้ให้ช่างทำการเขียนแบบราชวังใหม่ขึ้น แต่จนแล้วจนรอดแบบพระราชวังใหม่ก็ยังไม่เป็นที่ถูกใจของจูหยวนจางเลย คืนหนึ่งจูหยวนจางได้มองไปบนท้องฟ้าและเห็นดาวดวงหนึ่งประกายเป็นแสงสีทองอร่าม จูหยวนจางเลยอธิฐานให้ดาวประกายทองดวงนั้นช่วยท่านสร้างวังให้สำเร็จ

หลังคำอธิฐานได้ปรากฎมีลำแสงสีทองพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ตกลงเบื้องหน้าของจูหยวนจาง และอันตรธานหายไป รุ่งขึ้นจูหยวนจางและอำมาตย์เล่าแปะอุ่น (劉伯溫) ได้ออกตรวจความพร้อมในการสร้างวัง เล่าแปะอุ่นได้มองเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังก้มคำนวนด้วยลูกคิดอยู่ แต่เมื่อเล่าแปะอุ่นเดินเข้าไปใกล้ เด็กหนุ่มก็อันตรธานหายไปเหลือไว้แต่ลูกคิดวางอยู่ เมื่อเล่าแปะอุ่นก้มลงจะหยิบลูกคิดขึ้นมา ลูกคิดอันนั้นก็จมหายลงไปในดิน

คืนนั้นเองจูหยวนจางก็ฝันเห็นแบบของพระราชวังใหม่ และหลังจากที่ตื่นก็รีบให้ช่างวาดแบบตามที่ได้เห็นในฝัน และให้ใช้ในการก่อสร้าง หลังที่ได้ก่อสร้างพระราชวังตามแบบที่เห็นในฝันจนแล้วเสร็จ อำมาตย์เล่าแปะอุ่นก็ประหลาดใจมาก เพราะรูปร่างของพระราชวังนั้น เหมือนกับลูกคิดที่ตนเคยเห็นและจะก้มเก็บแต่จมลงไปในดินเสียแล้ว

เรื่องราวนี้ได้ถูกเล่าขานกัน และทำให้ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าพระราชวังของราชวงศ์หมิงนั้น ได้ถูกสร้างขึ้นโดยการช่วยเหลือของกิมกังสินนั้นเอง


การบูชากิมกังสิน

บันทึกกล่าวว่า วันขึ้น 2 ค่ำเดือน 8 ตามปฏิทินจีน (農曆八月初二日) คือวันเฉลิมฉลองวันเกิดของเทพเจ้ากิมกังสิน

กิมกังสินโปก่อ - 金甲神寶誥 (บทสวดสรรเสริญเทพกิมกังสิน)

九天巡狩金甲神寶誥
Jiu Tian Xun Shou Jin Jia Shen Bao Gao (Praise Mantra)


至心皈命禮。
Zhi Xin Gui Ming Li
九天金闕殿。玉皇御前將。
Jiu Tian Jin Que Dian. Yu Huang Yu Qian Jiang
青鋒常守駕。威猛滅穢氛。
Qing Feng Chang Shou Jia. Wei Meng Mie Hui Fen
聖旨傳達出天門。
Sheng Zhi Chuan Da Chu Tian Men
驅行麒麟步天下。
Qu Xing Qi Lin Bu Tian Xia
素面丹脣。金甲披身。
Su Mian Dan Chun. Jin Jia Pi Shen
珠冠瓊花。敕封大神。
Zhu Guan Qiong Hua. Che Feng Da Shen
凡有上奏書必達。
Fan You Zou Shu Bi Da
狀帖投進不移漏。
Zhuan Tie Tou Jin Bu Yi Lou
唐顯聖跡。太宗駕前。
Tang Xian Sheng Ji. Tai Zong Jia Qian
宋有記載。書於宮中。
Song You Ji Zai. Shu Yu Gong Zhong
明相伯溫。觀解事疑。
Ming Xiang Bo Wen. Guan Jie Shi Yi
至剛至勇。至仁至威。
Zhi Gang Zhi Yong. Zhi Ren Zhi Wei
九天巡狩傳達使。
Jiu Tian Xun Shou Chuan Da Shi
三界無拘金甲神。
San Jie Wu Ju Jin Jia Shen

อ้างอิง: http://javewu.multiply.com/photos/album/625/625

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

ออบิ่นซาม้า - 黑面三媽

c8 
ออบิ่นซาม้า (黑面三媽) หรือ เที้ยนซ่งเส้งโบ้ม้าจ้อ (天上聖母媽祖) หน้าดำนั้นเองครับ มีหลายคนสงสัยว่าทำไมม้าจ้อถึงหน้าดำ ทำให้เกิดความเข้าใจต่างๆกันไปมากมายครับ เช่น หน้าที่ดำนั้นเกิดจากควันธูปควันเทียนที่รมจนทำให้หน้าท่านดำ บ้างก็ว่าที่หน้าดำเพราะเกิดจากยางไม้ที่แกะกิมสิ้นไหลออกมา หรือบ้างก็ว่ากิมสิ้นตกลงไปในทะเลทำให้หน้าดำไปเลยก็มีครับ แต่จริงๆแล้วประวัติตำนานของ ออบิ่นซาม้า นั้นมีบันทึกและเชื่อกันมาแบบนี้ครับ

ปีหนึ่งในสมัยราชวงศ์หมิง ในขณะที่ม้าจ้อกำลังโปรดสัตว์ต่างๆตามปกติอยู่นั้น เชียนลี้ง้าน (千里眼) และซุนฮองหนี้ (順風耳) ได้แจ้งว่ามีหมอกดำปกคลุมเป็นที่ผิดสังเกตุ บริเวณเขาบู๊อีซาน (武夷山 - ปัจจุบันภูเขานี้มีชื่อเสียงเรื่องชาฮกเกี่ยนมาก) เมืองฮกเกี่ยน (中國福建省) ทันใดนั้นม้าจ้อและบริวารทั้งสองก็รีบตรงไปที่บู๊อีซานทันที


เมื่อถึงบริเวณภูเขา ม้าจ้อได้แปลงกายเป็นสาวชาวบ้านเพื่อสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ใกล้ชิด และได้ใช้อิทธิฤทธิ์เรียกเทพเจ้าที่ (土地神) มาเพื่อไต่ถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เทพเจ้าที่ได้กล่าวว่า ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ได้มีพายุฟ้าคะนองและมีปีศาจซึ่งมีกายเป็นสีดำทะมึนพุ่งลงมาจากฟ้าเข้าไปอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในภูเขาบู๊อีซาน และหลังจากนั้นก็เกิดหมอกควันสีดำผวยพุ่งออกมาปกคลุมท้องฟ้าทั้งภูเขาบู๊อีและเมืองฮกเกี่ยน ชาวบ้านที่มาทำไร่บริเวณภูเขาที่หายใจเอาควันสีดำเข้าไป ก็ทำให้ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นสีดำสนิท จนชาวบ้านหวาดกลัวและไม่กล้าเข้ามาทำไร่ไถนาบริเวณภูเขาอีก จนทำให้เกิดความวุ่นวายและเดือนร้อนกันไปทั่ว

ม้าจ้อออกคำสั่งให้เชียนลี้ง้านและซุนฮองหนี้ เฝ้าคุ้มกันอยู่บนอากาศ ส่วนม้าจ้อก็เดินเท้าขึ้นภูเขาเพื่อจะล่อจับปีศาจ เพื่อมิให้ผิดสังเกตุ ม้าจ้อได้ใช้อิทธิฤทธิ์เสกหน้าตัวเองให้เป็นสีดำเพื่อให้ปีศาจไม่สงสัย เมื่อมาถึงปากถ้ำ ได้เกิดควันสีดำผวยพุ่งออกมาเพื่อเข้ามาทำร้ายม้าจ้อ ทันใดนั้นม้าจ้อได้กลับกลายเป็นร่างเดิมของท่าน และได้เข้าต่อสู้กับปีศาจควันดำนั้น แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์เทพสวรรค์ของม้าจ้อ เจ้าปีศาจมิอาจที่จะเอาชนะได้ และกำลังจะหลบหนีเข้าไปในถ้ำ ขณะนั้นเองเชียนลี้ง้านและซุนฮองหนี้ก็เข้ามาช่วยม้าจ้อจับตัวปีศาจควันดำนั้นได้

หลังจากปีศาจควันดำโดนจับได้ ก็กลายร่างมาเป็นร่างเดิมของมัน ซึ่งก็คือปีศาจเต่าดำนั้นเอง และต่อมาปีศาจเต่าดำตนนี้ก็ขอติดตามม้าจ้อ ไปช่วยโปรดสัตว์โดยเฉพาะเวลาที่ม้าจ้อท่องเที่ยวไปในท้องมหาสมุทร ตั้งแต่นั้นมา

หลังจากที่เหตุการณ์ที่ม้าจ้อช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการปราบปีศาจเต่าดำในครั้งนั้น ชาวบ้านได้เกิดศรัทธาและได้ทำรูปเคารพเป็นรูปม้าจ้อหน้าดำ และเหยีบอยู่บนเต่าดำ เพื่อสักการะบูชา และระลึกถึงบุญคุณของม้าจ้อตั้งแต่นั้นมา

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

โค้วจินหยินก่ำเที้ยนไต่เต่โปก่อ - 感天大帝許遜寶誥



感天大帝許遜寶誥(之一) 

至心皈命禮
混元始祖。一炁分真。多劫之前。積修至道。 
勤苦備悉。經緯愈深。萬法千門。罔不斯歷。 
救災拔難。除害蕩妖。功濟生靈。名高玉籍。 
眾真推仰。宜有甄陞。大悲大願。大孝大仁。
九州都仙太史。高明大使。雷霆泰省天樞伏魔上相。
至道玄應。神功妙濟。掌九天司職。太一定命。注生真君。
三天按察都檢校。普奏諫議大夫。天醫大帝。
萬劫度人祖師。淨明普化天尊。

感天大帝許遜寶誥(之二) 

至心皈命禮
玉虛候相。金闕真仙。教啟閭山。開不二法門之號。
靈通寰宇。統五雷風火之尊。揮劍斬蛟。救萬民于江畔。
拯災散榖。得大道于山中。綏靖冥陽。神鬼共欽恩澤。
殄滅魔怪。天人同慶安寧。運無量之神通。週巡碧落。
救寰古之浩劫。拜禱丹墀。謢國保民。廟貌長存萬古。
匡時救苦。心香永祝千秋。
大悲大愿。大聖大慈。
閭山五雷風火院。玄靈法主。旌陽真君。

บุ๋นเเชียงเต้กุนโปก่อ - 文昌帝君寶誥

 

文昌帝君寶誥
 
志心皈命禮。
不驕樂境。玉真慶宮。 
現九十八化之行藏。 
顯億千萬種之神異。 
飛鸞開化於在在。 
如意救劫於生生。 
至孝至仁。 
功存乎道儒釋教。 
不驕不樂。 
職盡乎天地水官。 
功德難量。威靈莫測。 
大悲大願。大聖大慈。 
九天輔元。開化主宰。 
司祿職貢真君。 
七曲靈應。
保德宏仁大帝。
談經演教。消劫行化。 
更生永命天尊。