วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2552

เฮี้ยหู้อ๋องเอี๋ย - 邢府王爺

เฮี้ยหู้อ๋องเอี๋ย - 邢府王爺

มีชื่อเดิมว่าเฮี้ยผิง (邢鵬) หรือเฮี้ยเที้ยนเจี้ย (邢天正) เกิดในวันที่ 23 เดือน 8 (農曆八月廿三日) ปี ค.ศ.666 ตรงกับสมัยราชวังศ์ต่ง หรือ ถังในภาษาจีนกลาง (生于唐乾封元年) บ้านเกิด ณ เมืองเล็กเสีย มณฑลโห่ตั่ง (祖籍與河東歷城縣)

ชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัวต้องอพยพจากเมืองเล็กเสีย ไปอยู่ที่เมืองจ๋วนจิว ฮกเกี้ยน (遷移至福建省泉州市) เนื่องจากเมืองเล็กเสียนั้นประสบปัญหาน้ำท่วมบ่อยมาก เมื่อถึงเมืองจ๋วนจิว เงินทองของครอบครัวก็ใช้หมดไปกับการอพยพ ทำให้บิดาของท่าน ต้องแบกหน้าไปหยิบยืมเงินของคนรู้จัก เพื่อน และผู้ปล่อยเงินกู้ต่างๆ

แต่ถึงครอบครัวจะลำบากยากจนเพียงใด ท่านก็ยังมานะบากบั่นเสาะหาอาจารย์ผู้มีความรู้แขนงต่างๆ เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ ทำให้ท่านมีความรู้ในด้านการปกครอง การทหาร และการแพทย์เป็นอย่างดี จนท่านมีอายุสิบเจ็ดปี ท่านได้เข้าสอบคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการ และสอบผ่านได้เป็นอันดับที่สาม

ปีหนึ่งในขณะที่ท่านรับราชการรับใช้ราชสำนักต่ง ท่านก็ได้รับคำสั่งให้เข้าไปในเขตพระราชฐานเพื่อวิเคราะห์อาการประชวรของจักรพรรดินีบูเช็คเทียน 武則天 (ตอนที่ยังไม่ได้เป็นฮ่องเต้หญิง) ด้วยความรู้วิชาแพทย์ที่ท่านเคยศึกษาในวัยเยาว์ ท่านได้วิเคราะห์อาการป่วย และได้จ่ายยาให้บูเช็คเทียนเสวย จำนวน สามมื้อ จนอาการป่วยทุเลาหายไป ทำให้ท่านได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นสูงทันที

ปี ค.ศ. 680 ท่านได้ปราบผู้รุกรานทางเหนือหรือพวกปักฮวน (北番) ทำให้ท่านได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของราชสำนักถัง ถึงท่านจะมีตำแหน่งที่ใหญ่โตเพียงใด หากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่านได้รับบาดเจ็บจากสนามรบ ท่านจะเข้าไปรักษาพวกเขาเหล่านั้นโดยตนเอง ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน และเอาใจใส่ทหารเช่นนี้ทำให้ท่านได้รับการยำเกรงและเคารพนับถือของกองทัพเป็นอย่างที่สุด

ปี ค.ศ. 690 บูเช็คเทียนขึ้นครองราชย์ต่อจากลูกชาย (唐中宗) และราชสำนักได้เรียกตัวท่านกลับเข้าวังหลวง เพื่อป้องกันท่าน ก่อกบถ เนื่องจากท่านเป็นคนจงรักภักดีกับราชวงศ์ถังมาก และไม่สามารถทนเห็นบูเช็คเทียนขึ้นครองราชย์ต่อจากฮ่องเต้ถัง และเปลี่ยนราชวงศ์ถังเป็นราชวงศ์จิวได้ (唐號至周)

ท่านจึงขัดราชโองการไม่ยอมกลับเข้าวังรับใช้บูเช็คเทียน และทำการฆ่าตัวตายเพื่อแสดงความจงรักภักดีกับราชวงศ์ถัง (忠義殉國) ในวันที่ 13 เดือน 1 (卒於農曆正月十三日) ขณะนั้นท่านมีอายุได้เพียง 33 ปี (享年三十三歲)

หลังจากที่ท่านเสียชีวิตลง ผู้ใต้บังคับบัญชา รวมไปถึงชาวบ้านต่างพากันสร้างศาลเจ้าเพื่อระลึกถึงท่าน และกราบไหว้บูชาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ปกติเราจะไม่ค่อยเห็นกิมสิ้น ของท่านเดี่ยวๆนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะอยู่กันเป็นชุด กับ จูหู้อ๋องเอี๋ยและหลี่หู้อ๋องเอี๋ยครับ

邢府王爺寶誥

至心皈命禮。
唐代豪杰。功參雲天。
文能治國平天下。
武鎮安邦止干戈。
醫德觀群。整治亂痍。
去武后瘧疾。
得唐主封侯。
忠不移而授美名。
貴不驕而傳千年。
至仁至勇。至剛至正。
大唐勇義侯。
邢府天正王爺。

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

โปเส้งไต่เต่ - 保生大帝


宋朝醫仙保生大帝
ซ้องเตี่ยวอีเซียนโปเส้งไต่เต่




โปเส้งไต่เต่ (保生大帝) หรือ หง๋อจินหยิน (吳真人) หรือไต่โต่กง (大道公) มีชื่อจริงว่า หง๋อโถ (吳夲) ซึ่งต่อมามีคนเข้าใจผิดเรื่องตัวอักษร ชื่อของท่านจึงกลายเป็นหง๋อปุ้น (吳本) ไป

โปเส้งไต่เต่ เกิดวันที่สิบห้าเดือนสาม ปี ค.ศ. 979 (農曆三月十五日) ณ บ้านแปะเจียว ตั่งอัว เมืองจ่วนจิว มณฑลฮกเกี้ยน (中國福建泉州同安白礁鄉) ตรงกับสมัยราชวงศ์ซ้อง ปีไท่เพ่งเฮงก็อกที่สี่ รัชสมัยฮ่องเต้ซ้องไท่จง(宋太宗太平興國四年)

เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านการแพทย์และการเภสัชกรรม รวมไปถึงได้ทำการรักษาผู้คนจากโรคระบาดต่างๆ ท่านจึงได้รับการยกย่องให้เป็น เทพเจ้าแห่งการแพทย์ (醫神) มาตั้งแต่ยุคสมัยนั้น




จากตำนานเล่าว่าท่านได้ทำการรักษาบาดแผลที่ตาของมังกร (點龍睛) รวมไปถึงรักษาอาการกระดูกติดคอของเสือ (醫虎喉)ซึ่งต่อเสือตัวนั้นก็ได้กลายมาเป็นพาหนะติดตามท่าน และอิทธิปาฏิหารย์อื่นๆ อีกมากมาย

ในสมัยเด็ก ท่านเป็นเด็กที่มีความฉลาด สามารถท่องจำและเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องยารักษาโรคต่างๆ และขณะเมื่อท่านมีอายุสิบเจ็ดปี เชื่อกันว่าท่านได้เรียนวิชาอาคมจากไซอ๋องโบ้ (西王母) อีกด้วย

ขณะที่ท่านอายุยี่สิบสี่ปี ท่านได้ผ่านการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ และได้บรรจุเป็นเจ้าพนักงานตรวจราชการ จากนั้นในเวลาต่อมาท่านก็ได้ลาออกจากราชการ เพื่อฝึกปฏิบัติเต๋า อยู่บนภูเขา ณ บ้านแปะเจียว (白礁) นั้นเอง

ในชีวิตของท่าน ท่านไม่เคยออกเรือนมีครอบครัวและท่านยังเป็นมังสวิรัช ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และเหนือสิ่งอื่นใดคืออุทิศชีวิตในการศึกษาเรื่องการแพทย์และการเภสัชกรรมในการรักษาบรรเทาทุกขเวทนาของประชาชน




ในวันที่สองเดือนห้า ปี ค.ศ. 1036 ตรงกับปีกิ้งอิ่วที่สาม รัชสมัยฮ่องเต้ซ้องหยินจง(宋仁宗景佑三年)ท่านก็ได้สำเร็จเป็นเซียนโดยมีนกกระเรียนมารับท่านไปสู่สรวงสวรรค์ ชาวบ้านที่เห็นต่างพากันคุกเข่ากราบไหว้ท่าน ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลากลางวันมองเห็นชัดเจน โดยท่านได้สำเร็จเป็นเซียนเมื่ออายุห้าสิบแปดปี

หลังจากที่ท่านสำเร็จเป็นเซียนได้มีเหตุการณ์ปาฏิหารย์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ท่านได้ช่วยเหลือประชาชนรวมไปถึงชาติบ้านเมืองด้วย อาทิเช่น




ศาลเจ้าโปอานเก็ง (大龍峒保安宮) ณ กรุงไทเป (ปี ค.ศ.1918)




ศาลเจ้าโปอานเก็งในปัจจุบัน ถ่ายโดยผู้เขียน เดือนตุลาคม ค.ศ.2008


ในสมัยที่ซ้องโกจง (宋高宗) ยังเป็นรัชทายาทอยู่นั้น ได้ถูกส่งตัวไปราชสำนักกิม (金國) เพื่อเป็นตัวประกัน และโปเส้งไต่เต่ ได้แสดงปาฏิหารย์ในการปกป้องซ้องโกจงให้กลับมาที่ราชสำนักซ่งได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเมื่อซ่งเกาจงขึ้นครองราชย์ จึงได้มีคำสั่งให้สร้างศาลเจ้าของโปเส้งไต่เต่ขึ้น และถวายชื่อท่านเป็นที่ ไต่โต่จินกุน (大道真人)




กลอนคู่ในโถงหลักของศาลเจ้าโปอานเก็งไทเป เขียนโดยเฉินเหว่ยอิง ซึ่งเป็นบัณฑิตที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น

ในยุคต่อมาสมัยราชวงศ์เหม็งเฉี๋ยจ้อ(明成祖)ฮองเฮาบุ๋น(文皇后) ได้เป็นโรคติดเชื้อที่หน้าอก หมอหลวงทั้งวังและนอกวังหมดปัญญารักษาให้หาย โปเส้งไต่เต่แปลงกายเป็นนักพรต วิเคราะห์ชีพจรฮองเฮาบุ๋นผ่านเส้นด้าย และรักษาโรคจนหาย ฮ่องเต้เหม็งเฉี๋ยจ้อต้องการประทานรางวัลให้ท่าน แต่ท่านก็ปฏิเสธพร้อมทั้งนั่งกระเรียนบินหายไป

ฮ่องเต้เหม็งเฉี๋ยจ้อซาบซึ้งในตัวของโปเส้งไต่เต่มาก จึงถวายชื่อท่านให้เป็นที่ 恩主昊天金闕御史慈濟醫靈妙道真君萬壽無極保生大帝 พร้อมทั้งประทานเข็มขัดมังกร และสร้างศาลเจ้าให้ท่าน

ปัจจุบันมีศาลเจ้าของท่านมากกว่า 200 แห่งในไต้หวัน แต่ศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในไต้หวันคือ ศาลเจ้าโปอานเก็ง (大龍峒保安宮) ที่ตั้งอยู่ ณ กรุงไทเป ซึ่งก่อสร้างโดยชาวตั้งอัวที่อพยพมาอยู่ไทเป ในสมัยฮ่องเต้เฉียนหลง ราชวงศ์เช็ง




ยันต์กระดาษที่ผู้เขียนได้จากศาลเจ้าโปอัน สังเกตุเห็นว่าทางซ้ายจะมีชื่อของโล่เชี้ยและทางขวาจะมีชื่อของแม่ทัพเสือดำ




ยันต์ของโปเส้งไต่เต่ชนิดใช้ห้อยคอ (ภาพถ่ายด้านหน้า และด้านหลัง) หุ้มด้วยพลาสติก จากศาลเจ้าโปอัน
หลังจากที่ได้ยันต์มาแล้วจะต้องเอามารมควันธูปควันเทียนก่อนเอามาใช้




อ้างอิง
1) Dalongdong Baoan temple – Religious and Architectural Arts Guide
2) 台灣的神像 – Gods of Taiwan “Neal Donnelly”
3) http://javewu.multiply.com
4) http:// www.baidu.com (http://baike.baidu.com/view/23453.htm)


หมายเหตุ
- คำอ่านออกเสียงที่ใช้เป็นสำเนียงฮกเกี้ยน


วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2552

หุ่ยเต็กจุนอ๋อง - 惠澤尊王

南安葉氏先祖惠澤尊王



หุ่ยเต็กจุนอ๋อง (惠澤尊王) หรือ กงเต็กถาว (廣德侯) มีชื่อเดิมว่า เอี๊ยบซิ้ม (葉森) บิดาชื่อเอี๊ยบเต๋งเหี้ย (葉廷显) มารดาแซ่ตัน (葉門陳氏) เกิดวันที่สิบเดือนสิบสอง (誕辰為農曆十二月初十) ในยุคราชวงศ์ซ้องใต้ (ปี ค.ศ.๑๑๘๙) รัชสมัยซุนฮี (生於南宋淳熙年間) ณ บ้านโกเตียน หล่ำอั่ว ฮกเกี้ยน(祖籍為中國福建省南安市高田人) ท่านมีน้องชายหนึ่งคนชื่อว่า เอี๊ยบส่ำฮอก(葉三復)

จากบันทึกที่พบในศาลเจ้าบรรพบุรุษบ้านหล่ำอั่ว ได้กล่าวไว้ว่าในคืนที่ท่านถือกำเนิดนั้นได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นมากมายในบ้านของท่าน รวมไปถึงทั้งหมู่บ้านหล่ำอั่วอีกด้วย โดยปรากฎเป็นแสงสว่างสุกใสเหนือบ้านของท่าน และมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายในบ้านรวมไปถึงบริเวณใกล้เคียง และหลังจากที่ท่านถือกำเนิดออกมา ก็ปรากฎมีแสงสีม่วงพุ่งขึ้นจากห้องทำคลอดไปสู่ท้องฟ้า

ในปี ค.ศ.๑๒๐๑ ท่านมีอายุครบสิบสามปี ก็สามารถท่องจำและแต่งบทกลอนต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล้ว เมื่ออายุครบยี่สิบปีท่านก็ถือได้ว่าเป็นบัณฑิตที่เก่งกาจผู้หนึ่ง ถือแม้นว่าท่านอยู่เกิดในครอบครัวบัณฑิตแต่ท่านก็ตัดสินใจที่จะเรียนวิชาบู้เพิ่ม เพื่อป้องกันตนเอง ครอบครัว และเพื่อช่วยประเทศชาติในสภาวะสงคราม ท่านจึงตัดสินใจเรียนวิชาบู้เมื่ออายุได้ยี่สิบเอ็ดปี จนกระทั่งหลายปีต่อมาท่านก็เรียนรู้วิชาบู้จนคล่องแคล้ว และเข้ารับใช้ชาติ โดยเข้าต่อสู้กับพวกกบถและผู้รุกราน

ในปี ค.ศ.๑๒๒๑-๑๒๒๓ ท่านได้ปราบขบถและผู้รุกราน มีความดีความชอบจนได้รับพระราชทานรางวัลและตำแหน่งจากราชสำนักซ้อง และหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามระหว่างซ้องกับกิม(金朝)ขึ้น

ปี ค.ศ.๑๒๔๕ ท่านมีอายุ๕๗ ปี ท่านได้สละชีวิตตัวเองเข้าช่วยเหลือฮ่องเต้ซ้องที่ถูกกองทหารกิมบุกทำร้าย หลังจากที่ท่านเสียชีวิตลง ด้วยความจงรักภักดีขอท่าน ฮ่องเต้ได้ประทานชื่อท่านเป็นกงเต็กถาว (广德侯)

หลังจากที่อาณาจักรกิมโดนโค่นล้มลงในสมัยราชวงศ์หมิง ก็ได้มีการสร้างศาลเจ้าเพื่อสดุดีวีรกรรมของผู้รักชาติในสมัยซ้องใต้ขึ้น และ ศาลเจ้าบรรพบุรุษเพื่อรำลึกถึงหุ่ยเต็กจุนอ๋องก็เป็นหนึ่งในนั้น และได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีโดยชาวฮกเกี้ยนหล่ำอั่ว จนถึงปัจจุบัน

ลักษณะของกิมสิ้นของท่านจะมีลักษณะดังนี้ (惠澤尊王特徵)

- หน้าแดงหรือดำ (赤/黑面,雙凸眼)
- มือขวาจับเข็มขัด และมือซ้ายวางบนเข่า (右手托戴,左手扶膝)
- เท้าทั้งสองวางบนที่พักเท้าของเก้าอี้ (雙足踏座底)

เพราะลักษณะของกิมสิ้นหุ่ยเต็กจุนอ๋องที่คล้ายกับของโกยเส้งอ๋อง(廣澤尊王) ทำให้มีการเข้าใจผิดกันมากระหว่างเทพเจ้าสององค์นี้ อีกทั้งโกยเส้งอ๋องยังมีชื่อเรียกอีกนามหนึงด้วยว่า โปอันหุ่ยเต็กจุนอ๋อง (保安惠澤尊王) ซึ่งคล้ายกันมาก ทำให้คนเข้าใจผิดไปกันใหญ่ครับ

惠澤尊王寶誥

至心皈命禮。
皇天佑善。賜子於門。
森之嚴考積善德。
紫气迎眸得麟子。
幼能辨萬詞。
弱冠辯群英。
文滔武略為宋臣。
光宗祖基封王侯。
抗金難。護城河。
媲岳穆。齊三傑。
至忠至勇。至仁至誠。
大宗廣德侯。
威武惠泽尊王。

วัดของท่านที่หล่ำอั่ว


วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2552

ทิหู้หง่วนโส่ยโปก่อ - 鐵元帥寶誥


鐵元帥寶誥

至心皈命禮。
六丁之精。金闕猛使。
值殷商之末。妖氛沖天。
憐群氓無助。奉旨降世。
膽落天地。勇武無敵。
殺烏兔於水潁。
降火馬於陰山。
殲魔鬼於野火廟中。
擒妖狐於紫虛樓下。
協助玄武。平靖六魔。
救民濟世。清寧海宇。
至猛至烈。至威至靈。
東嶽駕前十太保。
猛烈鐵元帥。威靈靈佑侯。