วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

ซำไน้ฮูหยินโปก่อ - 三娘夫人



臨水夫人陳靖姑寶誥


至心皈命禮
閭山學法。
道果超倫。
妙奧精通。
手持寶劍而滅怪。
玄機洞徹。
腳踏白蛇以成神。
忠貞沖日月。
義氣貫風雲。
扶社稷。
德佩乾坤。
保蒼黎。功參造化。
孝行克守。
消世上之災殃。
仁愛長存。
施人間之雨露。
名登紫府。果證瑤閽。
大悲大願。至靜至仁。
臨水宮陳奶夫人。
昭惠崇福護國救世元君。
臨水宮林奶夫人寶誥
志心皈命禮。
玄機鍛鍊。懿行克敦。
道德勤修。救蒼生之厄難。
神威顯赫。解赤子之災殃。
賞善罰惡。化劫施恩。
有求皆應。無感不通。
收妖滅怪。灑甘露於塵寰。
逐穢驅邪。施膏澤於世宇。
心抱仁慈。願安社稷。
性存忠勇。眷顧垓埏。
名登紫府。果證瑤閽。
大悲大願。至靜至仁。
臨水宮林奶夫人。
護國普濟元君。

臨水宮李奶夫人寶誥
志心皈命禮。
懿德昭穆。閫範流芳。
消災賜福。化劫施恩。
玄機勤鍊。保衛四處黎民。
妙奧精微。眷顧十方赤子。
收邪妖而宏法力。
斬魔鬼以顯神通。
威聲赫濯。慈悲度人。
護國安邦。功德浩大。
除逆撫順。道法無窮。
名登紫府。果證瑤閽。
大悲大願。至靜至仁。
臨水宮李奶夫人。
護國平閩元君。

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2552

เฮี้ยหู้อ๋องเอี๋ย - 邢府王爺

เฮี้ยหู้อ๋องเอี๋ย - 邢府王爺

มีชื่อเดิมว่าเฮี้ยผิง (邢鵬) หรือเฮี้ยเที้ยนเจี้ย (邢天正) เกิดในวันที่ 23 เดือน 8 (農曆八月廿三日) ปี ค.ศ.666 ตรงกับสมัยราชวังศ์ต่ง หรือ ถังในภาษาจีนกลาง (生于唐乾封元年) บ้านเกิด ณ เมืองเล็กเสีย มณฑลโห่ตั่ง (祖籍與河東歷城縣)

ชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัวต้องอพยพจากเมืองเล็กเสีย ไปอยู่ที่เมืองจ๋วนจิว ฮกเกี้ยน (遷移至福建省泉州市) เนื่องจากเมืองเล็กเสียนั้นประสบปัญหาน้ำท่วมบ่อยมาก เมื่อถึงเมืองจ๋วนจิว เงินทองของครอบครัวก็ใช้หมดไปกับการอพยพ ทำให้บิดาของท่าน ต้องแบกหน้าไปหยิบยืมเงินของคนรู้จัก เพื่อน และผู้ปล่อยเงินกู้ต่างๆ

แต่ถึงครอบครัวจะลำบากยากจนเพียงใด ท่านก็ยังมานะบากบั่นเสาะหาอาจารย์ผู้มีความรู้แขนงต่างๆ เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ ทำให้ท่านมีความรู้ในด้านการปกครอง การทหาร และการแพทย์เป็นอย่างดี จนท่านมีอายุสิบเจ็ดปี ท่านได้เข้าสอบคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการ และสอบผ่านได้เป็นอันดับที่สาม

ปีหนึ่งในขณะที่ท่านรับราชการรับใช้ราชสำนักต่ง ท่านก็ได้รับคำสั่งให้เข้าไปในเขตพระราชฐานเพื่อวิเคราะห์อาการประชวรของจักรพรรดินีบูเช็คเทียน 武則天 (ตอนที่ยังไม่ได้เป็นฮ่องเต้หญิง) ด้วยความรู้วิชาแพทย์ที่ท่านเคยศึกษาในวัยเยาว์ ท่านได้วิเคราะห์อาการป่วย และได้จ่ายยาให้บูเช็คเทียนเสวย จำนวน สามมื้อ จนอาการป่วยทุเลาหายไป ทำให้ท่านได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นสูงทันที

ปี ค.ศ. 680 ท่านได้ปราบผู้รุกรานทางเหนือหรือพวกปักฮวน (北番) ทำให้ท่านได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของราชสำนักถัง ถึงท่านจะมีตำแหน่งที่ใหญ่โตเพียงใด หากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่านได้รับบาดเจ็บจากสนามรบ ท่านจะเข้าไปรักษาพวกเขาเหล่านั้นโดยตนเอง ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน และเอาใจใส่ทหารเช่นนี้ทำให้ท่านได้รับการยำเกรงและเคารพนับถือของกองทัพเป็นอย่างที่สุด

ปี ค.ศ. 690 บูเช็คเทียนขึ้นครองราชย์ต่อจากลูกชาย (唐中宗) และราชสำนักได้เรียกตัวท่านกลับเข้าวังหลวง เพื่อป้องกันท่าน ก่อกบถ เนื่องจากท่านเป็นคนจงรักภักดีกับราชวงศ์ถังมาก และไม่สามารถทนเห็นบูเช็คเทียนขึ้นครองราชย์ต่อจากฮ่องเต้ถัง และเปลี่ยนราชวงศ์ถังเป็นราชวงศ์จิวได้ (唐號至周)

ท่านจึงขัดราชโองการไม่ยอมกลับเข้าวังรับใช้บูเช็คเทียน และทำการฆ่าตัวตายเพื่อแสดงความจงรักภักดีกับราชวงศ์ถัง (忠義殉國) ในวันที่ 13 เดือน 1 (卒於農曆正月十三日) ขณะนั้นท่านมีอายุได้เพียง 33 ปี (享年三十三歲)

หลังจากที่ท่านเสียชีวิตลง ผู้ใต้บังคับบัญชา รวมไปถึงชาวบ้านต่างพากันสร้างศาลเจ้าเพื่อระลึกถึงท่าน และกราบไหว้บูชาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ปกติเราจะไม่ค่อยเห็นกิมสิ้น ของท่านเดี่ยวๆนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะอยู่กันเป็นชุด กับ จูหู้อ๋องเอี๋ยและหลี่หู้อ๋องเอี๋ยครับ

邢府王爺寶誥

至心皈命禮。
唐代豪杰。功參雲天。
文能治國平天下。
武鎮安邦止干戈。
醫德觀群。整治亂痍。
去武后瘧疾。
得唐主封侯。
忠不移而授美名。
貴不驕而傳千年。
至仁至勇。至剛至正。
大唐勇義侯。
邢府天正王爺。

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

โปเส้งไต่เต่ - 保生大帝


宋朝醫仙保生大帝
ซ้องเตี่ยวอีเซียนโปเส้งไต่เต่




โปเส้งไต่เต่ (保生大帝) หรือ หง๋อจินหยิน (吳真人) หรือไต่โต่กง (大道公) มีชื่อจริงว่า หง๋อโถ (吳夲) ซึ่งต่อมามีคนเข้าใจผิดเรื่องตัวอักษร ชื่อของท่านจึงกลายเป็นหง๋อปุ้น (吳本) ไป

โปเส้งไต่เต่ เกิดวันที่สิบห้าเดือนสาม ปี ค.ศ. 979 (農曆三月十五日) ณ บ้านแปะเจียว ตั่งอัว เมืองจ่วนจิว มณฑลฮกเกี้ยน (中國福建泉州同安白礁鄉) ตรงกับสมัยราชวงศ์ซ้อง ปีไท่เพ่งเฮงก็อกที่สี่ รัชสมัยฮ่องเต้ซ้องไท่จง(宋太宗太平興國四年)

เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านการแพทย์และการเภสัชกรรม รวมไปถึงได้ทำการรักษาผู้คนจากโรคระบาดต่างๆ ท่านจึงได้รับการยกย่องให้เป็น เทพเจ้าแห่งการแพทย์ (醫神) มาตั้งแต่ยุคสมัยนั้น




จากตำนานเล่าว่าท่านได้ทำการรักษาบาดแผลที่ตาของมังกร (點龍睛) รวมไปถึงรักษาอาการกระดูกติดคอของเสือ (醫虎喉)ซึ่งต่อเสือตัวนั้นก็ได้กลายมาเป็นพาหนะติดตามท่าน และอิทธิปาฏิหารย์อื่นๆ อีกมากมาย

ในสมัยเด็ก ท่านเป็นเด็กที่มีความฉลาด สามารถท่องจำและเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องยารักษาโรคต่างๆ และขณะเมื่อท่านมีอายุสิบเจ็ดปี เชื่อกันว่าท่านได้เรียนวิชาอาคมจากไซอ๋องโบ้ (西王母) อีกด้วย

ขณะที่ท่านอายุยี่สิบสี่ปี ท่านได้ผ่านการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ และได้บรรจุเป็นเจ้าพนักงานตรวจราชการ จากนั้นในเวลาต่อมาท่านก็ได้ลาออกจากราชการ เพื่อฝึกปฏิบัติเต๋า อยู่บนภูเขา ณ บ้านแปะเจียว (白礁) นั้นเอง

ในชีวิตของท่าน ท่านไม่เคยออกเรือนมีครอบครัวและท่านยังเป็นมังสวิรัช ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และเหนือสิ่งอื่นใดคืออุทิศชีวิตในการศึกษาเรื่องการแพทย์และการเภสัชกรรมในการรักษาบรรเทาทุกขเวทนาของประชาชน




ในวันที่สองเดือนห้า ปี ค.ศ. 1036 ตรงกับปีกิ้งอิ่วที่สาม รัชสมัยฮ่องเต้ซ้องหยินจง(宋仁宗景佑三年)ท่านก็ได้สำเร็จเป็นเซียนโดยมีนกกระเรียนมารับท่านไปสู่สรวงสวรรค์ ชาวบ้านที่เห็นต่างพากันคุกเข่ากราบไหว้ท่าน ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลากลางวันมองเห็นชัดเจน โดยท่านได้สำเร็จเป็นเซียนเมื่ออายุห้าสิบแปดปี

หลังจากที่ท่านสำเร็จเป็นเซียนได้มีเหตุการณ์ปาฏิหารย์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ท่านได้ช่วยเหลือประชาชนรวมไปถึงชาติบ้านเมืองด้วย อาทิเช่น




ศาลเจ้าโปอานเก็ง (大龍峒保安宮) ณ กรุงไทเป (ปี ค.ศ.1918)




ศาลเจ้าโปอานเก็งในปัจจุบัน ถ่ายโดยผู้เขียน เดือนตุลาคม ค.ศ.2008


ในสมัยที่ซ้องโกจง (宋高宗) ยังเป็นรัชทายาทอยู่นั้น ได้ถูกส่งตัวไปราชสำนักกิม (金國) เพื่อเป็นตัวประกัน และโปเส้งไต่เต่ ได้แสดงปาฏิหารย์ในการปกป้องซ้องโกจงให้กลับมาที่ราชสำนักซ่งได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเมื่อซ่งเกาจงขึ้นครองราชย์ จึงได้มีคำสั่งให้สร้างศาลเจ้าของโปเส้งไต่เต่ขึ้น และถวายชื่อท่านเป็นที่ ไต่โต่จินกุน (大道真人)




กลอนคู่ในโถงหลักของศาลเจ้าโปอานเก็งไทเป เขียนโดยเฉินเหว่ยอิง ซึ่งเป็นบัณฑิตที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น

ในยุคต่อมาสมัยราชวงศ์เหม็งเฉี๋ยจ้อ(明成祖)ฮองเฮาบุ๋น(文皇后) ได้เป็นโรคติดเชื้อที่หน้าอก หมอหลวงทั้งวังและนอกวังหมดปัญญารักษาให้หาย โปเส้งไต่เต่แปลงกายเป็นนักพรต วิเคราะห์ชีพจรฮองเฮาบุ๋นผ่านเส้นด้าย และรักษาโรคจนหาย ฮ่องเต้เหม็งเฉี๋ยจ้อต้องการประทานรางวัลให้ท่าน แต่ท่านก็ปฏิเสธพร้อมทั้งนั่งกระเรียนบินหายไป

ฮ่องเต้เหม็งเฉี๋ยจ้อซาบซึ้งในตัวของโปเส้งไต่เต่มาก จึงถวายชื่อท่านให้เป็นที่ 恩主昊天金闕御史慈濟醫靈妙道真君萬壽無極保生大帝 พร้อมทั้งประทานเข็มขัดมังกร และสร้างศาลเจ้าให้ท่าน

ปัจจุบันมีศาลเจ้าของท่านมากกว่า 200 แห่งในไต้หวัน แต่ศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในไต้หวันคือ ศาลเจ้าโปอานเก็ง (大龍峒保安宮) ที่ตั้งอยู่ ณ กรุงไทเป ซึ่งก่อสร้างโดยชาวตั้งอัวที่อพยพมาอยู่ไทเป ในสมัยฮ่องเต้เฉียนหลง ราชวงศ์เช็ง




ยันต์กระดาษที่ผู้เขียนได้จากศาลเจ้าโปอัน สังเกตุเห็นว่าทางซ้ายจะมีชื่อของโล่เชี้ยและทางขวาจะมีชื่อของแม่ทัพเสือดำ




ยันต์ของโปเส้งไต่เต่ชนิดใช้ห้อยคอ (ภาพถ่ายด้านหน้า และด้านหลัง) หุ้มด้วยพลาสติก จากศาลเจ้าโปอัน
หลังจากที่ได้ยันต์มาแล้วจะต้องเอามารมควันธูปควันเทียนก่อนเอามาใช้




อ้างอิง
1) Dalongdong Baoan temple – Religious and Architectural Arts Guide
2) 台灣的神像 – Gods of Taiwan “Neal Donnelly”
3) http://javewu.multiply.com
4) http:// www.baidu.com (http://baike.baidu.com/view/23453.htm)


หมายเหตุ
- คำอ่านออกเสียงที่ใช้เป็นสำเนียงฮกเกี้ยน


วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2552

หุ่ยเต็กจุนอ๋อง - 惠澤尊王

南安葉氏先祖惠澤尊王



หุ่ยเต็กจุนอ๋อง (惠澤尊王) หรือ กงเต็กถาว (廣德侯) มีชื่อเดิมว่า เอี๊ยบซิ้ม (葉森) บิดาชื่อเอี๊ยบเต๋งเหี้ย (葉廷显) มารดาแซ่ตัน (葉門陳氏) เกิดวันที่สิบเดือนสิบสอง (誕辰為農曆十二月初十) ในยุคราชวงศ์ซ้องใต้ (ปี ค.ศ.๑๑๘๙) รัชสมัยซุนฮี (生於南宋淳熙年間) ณ บ้านโกเตียน หล่ำอั่ว ฮกเกี้ยน(祖籍為中國福建省南安市高田人) ท่านมีน้องชายหนึ่งคนชื่อว่า เอี๊ยบส่ำฮอก(葉三復)

จากบันทึกที่พบในศาลเจ้าบรรพบุรุษบ้านหล่ำอั่ว ได้กล่าวไว้ว่าในคืนที่ท่านถือกำเนิดนั้นได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นมากมายในบ้านของท่าน รวมไปถึงทั้งหมู่บ้านหล่ำอั่วอีกด้วย โดยปรากฎเป็นแสงสว่างสุกใสเหนือบ้านของท่าน และมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายในบ้านรวมไปถึงบริเวณใกล้เคียง และหลังจากที่ท่านถือกำเนิดออกมา ก็ปรากฎมีแสงสีม่วงพุ่งขึ้นจากห้องทำคลอดไปสู่ท้องฟ้า

ในปี ค.ศ.๑๒๐๑ ท่านมีอายุครบสิบสามปี ก็สามารถท่องจำและแต่งบทกลอนต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล้ว เมื่ออายุครบยี่สิบปีท่านก็ถือได้ว่าเป็นบัณฑิตที่เก่งกาจผู้หนึ่ง ถือแม้นว่าท่านอยู่เกิดในครอบครัวบัณฑิตแต่ท่านก็ตัดสินใจที่จะเรียนวิชาบู้เพิ่ม เพื่อป้องกันตนเอง ครอบครัว และเพื่อช่วยประเทศชาติในสภาวะสงคราม ท่านจึงตัดสินใจเรียนวิชาบู้เมื่ออายุได้ยี่สิบเอ็ดปี จนกระทั่งหลายปีต่อมาท่านก็เรียนรู้วิชาบู้จนคล่องแคล้ว และเข้ารับใช้ชาติ โดยเข้าต่อสู้กับพวกกบถและผู้รุกราน

ในปี ค.ศ.๑๒๒๑-๑๒๒๓ ท่านได้ปราบขบถและผู้รุกราน มีความดีความชอบจนได้รับพระราชทานรางวัลและตำแหน่งจากราชสำนักซ้อง และหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามระหว่างซ้องกับกิม(金朝)ขึ้น

ปี ค.ศ.๑๒๔๕ ท่านมีอายุ๕๗ ปี ท่านได้สละชีวิตตัวเองเข้าช่วยเหลือฮ่องเต้ซ้องที่ถูกกองทหารกิมบุกทำร้าย หลังจากที่ท่านเสียชีวิตลง ด้วยความจงรักภักดีขอท่าน ฮ่องเต้ได้ประทานชื่อท่านเป็นกงเต็กถาว (广德侯)

หลังจากที่อาณาจักรกิมโดนโค่นล้มลงในสมัยราชวงศ์หมิง ก็ได้มีการสร้างศาลเจ้าเพื่อสดุดีวีรกรรมของผู้รักชาติในสมัยซ้องใต้ขึ้น และ ศาลเจ้าบรรพบุรุษเพื่อรำลึกถึงหุ่ยเต็กจุนอ๋องก็เป็นหนึ่งในนั้น และได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีโดยชาวฮกเกี้ยนหล่ำอั่ว จนถึงปัจจุบัน

ลักษณะของกิมสิ้นของท่านจะมีลักษณะดังนี้ (惠澤尊王特徵)

- หน้าแดงหรือดำ (赤/黑面,雙凸眼)
- มือขวาจับเข็มขัด และมือซ้ายวางบนเข่า (右手托戴,左手扶膝)
- เท้าทั้งสองวางบนที่พักเท้าของเก้าอี้ (雙足踏座底)

เพราะลักษณะของกิมสิ้นหุ่ยเต็กจุนอ๋องที่คล้ายกับของโกยเส้งอ๋อง(廣澤尊王) ทำให้มีการเข้าใจผิดกันมากระหว่างเทพเจ้าสององค์นี้ อีกทั้งโกยเส้งอ๋องยังมีชื่อเรียกอีกนามหนึงด้วยว่า โปอันหุ่ยเต็กจุนอ๋อง (保安惠澤尊王) ซึ่งคล้ายกันมาก ทำให้คนเข้าใจผิดไปกันใหญ่ครับ

惠澤尊王寶誥

至心皈命禮。
皇天佑善。賜子於門。
森之嚴考積善德。
紫气迎眸得麟子。
幼能辨萬詞。
弱冠辯群英。
文滔武略為宋臣。
光宗祖基封王侯。
抗金難。護城河。
媲岳穆。齊三傑。
至忠至勇。至仁至誠。
大宗廣德侯。
威武惠泽尊王。

วัดของท่านที่หล่ำอั่ว