วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553

ลี้ซานหลิ่มจุ้ยไท่โปเสี่ยหยินต่งจื้อ - 閭山臨水太保舍人童子


มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความสงสัยครับว่า ไท่โปเสี่ยหยิน (太保舍人) นี่มีความเป็นมาอย่างไร และทำไมถึงมีการบูชาเทพเจ้าองค์นี้ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทางภาคใต้ของจีน


จริงๆแล้วนั้น ความเชื่อทางศาศนาเต๋าโดยเฉพาะทางนิกายใต้ (Southern Taoism) ถ้าพูดถึง ไท่โปเสี่ยหยิน จะหมายถึงกลุ่มเทพสองกลุ่มครับ คือ แชเหลงเส้งอ๋องไท่โปเสี่ยหยิน (青龍聖王太保舍人) ซึ่งก็คือลูกชายสองคนของเทพเจ้ามังกรเขียว หรือ แชเหลงเส้งอ๋อง (青龍聖王) ซึ่งมีที่มาและการนับถืออยู่บริเวณเมืองแต้จิ่วนั้นเองครับ (中國潮州)


ส่วนเทพเจ้าอีกหนึ่งกลุ่มจะเรียกว่า หลิ่มจุ้ยไท่โปเสี่ยหยิน (臨水太保舍人) ซึ่งกลุ่มนี้จะมีความสำคัญกับนักบวชเต๋านิกายลี้ซาน (道教閭山科儀) และจะมีการเชิญเทพกลุ่มนี้มาในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ และเทพเจ้ากลุ่มนี้จะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ในบริเวณเมืองฮกจิว (中國福州) และไต้หวันครับ (台灣) และผมจะเล่าความเป็นมาของเทพกลุ่มนี้นะครับ ซึ่งเป็นลูกชายและลูกบุญธรรมของหลิ่มจุ้ยฮูหยินตันจิ่งโกว (臨水夫人陳靖姑)


ในปี ค.ศ.929 ตรงกับสมัยราชวงศ์ถัง (唐朝永和二年) ในวันที่เก้าเดือนห้าจีน (農曆五月初九日) ท่านตันจิ่งโกวได้ตั้งครรภ์บุตรชาย ในวันที่ทราบว่าได้ตั้งครรภ์นั้นเอง อาจารย์ของท่านคือ ท่านค้อจินหยินเทียนซือ (許遜天師) ได้สั่งห้ามมิให้ท่านตันจิ่งโกวเข้าร่วมหรือทำพิธีกรรมใดๆ หรือแสดงอิทธิฤทธิ์ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่

ต่อมาในวันที่สิบสามเดือนแปดในปีเดียวกัน ท่านตันจิ่งโกวได้ทราบข่าวจากเพื่อนนักพรตเต๋าว่าได้มีปีศาจออกอาละวาดปล่อยไอปีศาจอยู่บริเวณแม่น้ำแปะเหลง (白龍江) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในมณฑลก่านซู (位於中國甘肅省) จนชาวบ้านได้รับเดือดร้อนกันทั่ว หลังจากทราบข่าว ท่านตันจิ่งโกวได้รีบรุดไปยังแม่น้ำแปะเหลงทันทีทั้งทีตัวเองยังตั้งครรภ์อยู่

ในวันที่สิบห้าเดือดแปด ท่านได้มาถึงที่แม่น้ำแปะเหลงและรู้ได้ด้วยอำนาจวิเศษว่าปีศาจกำลังปล่อยไอปีศาจอยู่ที่ก้นแม่น้ำ ท่านจึงใช้ฤทธิ์วิเศษดำลงไปที่ก้นแม่น้ำเพื่อจะกำราบมัน ในขณะที่ท่านกำลังดำลงไปอยู่นั้น ท่านได้รู้สึกถึงกระแสน้ำที่กระทบกับท้องของท่าน ทำให้ท่านนึกขึ้นได้ว่าตัวเองตั้งครรภ์อยู่และท่านอาจารย์ค้อจินหยินก็สั่งห้ามมิให้แสดงอิทธิฤทธิ์ใดๆในช่วงนี้

แต่ด้วยความเมตตาต่อผู้คนที่ทนทุกข์ทรมาณจากไอปีศาจ ท่านก็จำใจต้องฝืนคำเตือนของอาจารย์ดำลงในน้ำต่อไปเพื่อปราบปีศาจ พร้อมทั้งกล่าวขอโทษลูกชายซึ่งอยู่ในครรภ์ของท่าน เมื่อท่านดำดิ่งลงมาถึงหน้าถ้ำใต้น้ำของปีศาจ ท่านก็ได้เสกกระบี่วิเศษเจ็ดดาว (七星劍) ทำการเข้าต่อสู้กับปีศาจอย่างเต็มสามารถ

ทันใดนั้นเอง ได้เกิดคลื่นยักษ์บนผิวแม่น้ำได้ได้คร่าชีวิตผู้คนที่อยู่บริเวณริมฝั่งตายไปเป็นอันมาก ท่านตันจิ่งโกวจึงได้เสกยันต์วิเศษเข้าสะกดปีศาจมังกรตนนี้ ปีศาจมังกรได้พ่ายแพ้ต่ออิทธิฤทธิ์ของตันจิ่งโกวและได้กลายร่างเดิมเป็นงูขาว (白蛇) แต่ในขณะที่ก่อนเจ้าปีศาจจะกลายร่างเดิม มันได้พ่นพิษเข้าใส่ท่านตันจิ่งโกว จนท่านหมดสติไป

เมื่อท่านตันจิ่งโกวฟื้นคืนสติมา ท่านพบว่าตัวเองตัวท่านอยู่ที่ เทียนกีฮู้ (金闕天機府 - เป็นสถานที่ที่เทียนซือ ปฏิบัติภาระกิจประจำวัน) โดยมีอาจารย์ค้อจินหยินเทียนซืออยู่ข้างๆ ท่านค้อเทียนซือได้กล่าวว่า ท่านตันจิ่งโกวนั้นได้สำเร็จบรรลุมรรคผลเป็นเทพในตอนที่ถูกปีศาจมังกรพ่นพิษใส่จนเสียชีวิตนั้นเอง และท่านค้อเทียนซือได้นำวิญญาณ (元神 - หง่วนสิน) มายังโลกสวรรค์แห่งนี้ อีกทั้งอาจารย์ยังบอกด้วยว่า ท่านตันจิ่งโกวนั้นได้แท้งลูกในขณะต่อสู้อีกด้วย ท่านตันจิ่งโกวรู้สึกว่าตัวเองผิดและไม่ได้ดูแลลูกที่ยังไม่ได้คลอดจนต้องมาสังเวชชีวิตลง

ท่านค้อเทียนซือเห็นท่านตันจิ่งโกวเสียใจ จึงได้กล่าวว่า ในอีกแปดปีข้างหน้า ตันจิ่งโกวจะได้พบลูกชายอีกครั้งในเมืองห้องโต (酆都城) เพราะหลังจากที่ตันจิ่งโกวแท้งบุตรชาย ท่านค้อเทียนซือได้นำวิญญาณของเด็กชายนั้นไปไว้ที่เมืองห้องโตโดยให้ไปเกิดในครอบครัวของข้าราชการแซ่เปาและแซ่แปะ (包白雙判官) ท่านตันจิ่งโกวรู้สึกดีใจและสำนึกในพระคุณของอาจารย์ค้อเทียนซือเป็นอย่างมาก และได้ตั้งใจบำเพ็ญเพียร พร้อมกันนี้ท่านได้ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และลูกในครรภ์ จากอันตรายต่างๆ, พลังที่ชั่วร้าย และจากปีศาจต่างๆ (發願為護童監生) อย่างเต็มความสามารถและเมตตา

ในปี ค.ศ.936 วันที่สิบห้าเดือนเจ็ดจีน ซึ่งครบกำหนดแปดปี ท่านตันจิ่งโกวได้เดินทางไปยังเมืองห้องโต จนถึงวันที่สิบห้าเดือนแปดท่านก็ได้เดินทางถึงเมืองห้องโตและได้พบกับเด็กชายคนหนึ่ง ท่านเข้าใจว่าเด็กชายคนนี้ต้องเป็นบุตรชายของท่านกลับมาเกิดแน่ๆ ท่านจึงเดินเข้าไปเพื่อทำการไต่ถาม  แต่มิทันที่ท่านจะเอ๋ยคำพูดขึ้น เด็กชายนั้นก็ได้กล่าวขึ้นว่า “ท่านคือ ตันจิ่งโกว และเข้าเมืองห้องโตมาเพื่อตามหาลูกชายของท่าน” ตันจิ่งโกวรู้สึกทึ่งและประหลาดใจในตัวเด็กชายมาก เด็กชายได้แนะนำตนเองว่า ชื่อ เปาต้าเที๊ยะ (包打聽) เป็นบุตรบุญธรรมของท่านเจ้าหน้าที่เปา (包判官)  ตันจิ่งโกวจึงอุ้มเด็กชายขึ้นและได้ให้นำทางเพื่อตามหาบุตรชายของตน

เนื่องจากพ่อแม่ของเปาต้าเที๊ยะเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเล็กมาก ทำให้ไม่ได้รับความรักจากแม่ ในขณะที่ตันจิ่งโกวอุ้มนั้น ทำให้เปาต้าเที๊ยะรู้สึกถึงความรักความอบอุ่นจากแม่ และคิดในใจว่าเราอยากจะมีแม่ที่อบอุ่มเหมือนตันจิ่งโกว ในขณะเดียวกันด้วยญาณอันวิเศษ ตันจิ่งโกวก็สามารถรับรู้ความปราถนาในใจของเด็กชายน้อยและได้มองตาเด็กชายน้อยพร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ และยิ้มให้อย่างอบอุ่น

เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าที่ทำการเจ้าหน้าเปา ได้เห็นเด็กชายสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่บนถนน เปาต้าเที๊ยะได้ตะโกนให้เด็กชายที่สวมชุดสีขาวหยุดต่อยตี และได้เรียกเด็กชายอีกคนที่ใส่ชุดอย่างคุณชายเพื่อเข้ามาหาพบแม่ เมื่อตันจิ้งโกวได้ยินเช่นนั้นก็ ตกใจยืนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ตรงหน้าเด็กชายที่สวมใส่ชุดอย่างคุณชายนั้นเอง

หลังจากที่นิ่งไปครู่หนึ่ง เปาต้าเที๊ยะก็พยักหน้าเป็นสัญญาณให้ตันจิ้งโกวทราบว่า เด็กผู้ชายคนนั้นแหละคือลูกของท่าน น้ำตาของท่านตันจิ้งโกวก็หลั่งออกมาด้วยความดีใจ พร้อมกันนั้นเด็กชายในชุดคุณชาย ก็วิ่งเข้าโผกอดและเรียกตัยจิ้งโกวว่าแม่ ทั้งสองแม่ลูกกอดกันด้วยความตื้นตันใจ หลังจากที่พลัดพรากจากกันถึงแปดปีเต็ม

ขณะที่สองแม่ลูกกำลังชื่นชมกันอยู่นั้น เจ้าหน้าที่เปา และเจ้าหน้าที่แปะก็ได้มาถึงที่ตรงนั้นพอดี และได้บอกแก่ตันจิ่งโกวว่า เด็กชายลูกของท่านชื่อว่า เลาฉอง (劉聰) โดยค้อจินหยินนำมาให้เราสองคนเลี้ยงดูเป็นอย่างดีเมื่อแปดปีที่แล้ว ตันจิ้งโกวกล่าวขอบคุณคนทั้งสอง

ในขณะที่ตันจิ้งโกวและเจ้าหน้าที่ทั้งสองสนทนาอยู่นั้น เปาต้าเที๊ยะและเด็กชายในชุดสีขาว ชื่อว่า แปะก้ามเส้ง(白感生) ซึ่งเป็นบุตรบุุญธรรมของเจ้าหน้าที่แปะ(白判官) ก็ได้สะอึกสะอื้นเมื่อได้ยินผู้ใหญ่ทั้งสามกล่าวถึงอดีตของเด็กทั้งสอง

แปะก้ามเส้ง บุตรของคู่รักแห่งเมืองฮกจิว (福州市)

วันหนึ่งขณะที่บิดาของแปะก้ามเส้งออกไปทำไร่ตามปกติ ก็ได้ถูกงูพิษกัดตาย เมื่อมารดาของแปะก้ามเส้งรู้ข่าว ก็เสียใจเป็นอันมากและได้กระโดดน้ำฆ่าตัวตายตามสามีไป ทำให้แปะก้ามเส้งต้องกำพร้าพ่อและแม่

เมื่อแปะก้ามเส้งอายุได้ห้าขวบ เกิดภัยแล้งอย่างหนักจนผู้คนล้มตาย ส่วนที่มีชีวิตอยู่ก็อพยพไปตั้งถิ่นฐานใหม่จนหมดสิ้น แปะก้านเส้งต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนหาอาหารมาประทังชีวิตอย่างยากลำบาก วันหนึ่งแปะก้านเส้งเห็นสุนัขกำลังแทะกระดูกจึงได้เข้าแย่งชิงมาเพื่อจะหาเศษเนื้อที่พอติดกระดูกอยู่บ้าง เมื่อได้กระดูกมา ด้วยความหิวโหยจึงรีบกัดกระดูกชิ้นนั้นจนทำให้กระดูกติดคอหายใจไม่ออก แปะก้านเส้งเสียชีวิตในทันที

วิญญาณของแปะก้านเส้ง (元神) ล่องลอยอยู่ ณ ที่แห่งนั้น และได้ถูกเจ้าหน้าที่แปะนำวิญญาณกลับไปยังเมืองห้องโต ในขณะที่ท่านออกราชการและทำการตรวจตราภัยแล้ง ณ บ้านเกิดของแปะก้ามเส้ง เมื่อกลับไปยังเมืองห้องโต เจ้าหน้าที่แปะได้ปล่อยวิญญาณและให้คืนร่างเดิม เจ้าหน้าที่แปะมองดูร่างของแปะก้ามเส้งด้วยความสงสาร และได้รับไว้เป็นบุตรบุญธรรม พร้อมทั้งให้รอแม่บุญธรรมที่แท้จริงมารับไป ซึ่งก็คือ ท่านตันจิ้งโกวนั้นเอง

ท่านตันจิ้งโกวจึงได้รับเด็กทั้งสองเป็นบุตรบุญธรรมและได้นำทั้งสองกลับไปที่ลี้ซาน (閭山) เพื่อบำเพ็ญเต๋าด้วย ซึ่งก็ได้รับการอนุญาติจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองเป็นอย่างดี

ก่อนที่ตันจิ้งโกวและเด็กชายทั้งสามจะออกเดินทางไปยังลี้ซาน ค้อเทียนซือก็ได้ปรากฎกายขึ้น ณ เมืองห้องโต และประกาศว่าได้มีโองการสวรรค์แต่งตั้งเจ้าหน้าที่เปาและเจ้าหน้าแปะทั้งสองคน ขึ้นเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่บันทึกอักษร และให้ไปทำหน้าที่ช่วยตั้งงักไต่เต่ (東嶽大帝) ที่เขาไท่ซาน (泰山) ในการดูแลหีบวิญญาณด้วย (受生庫)

ส่วนตันจิ้งโกวนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผ้อฮั้วเผียกเห่ไท่โห่วโปต่งจูเส้งเซียวหุยกิ่วเส่หง่วนกุน(普化碧霞太后保童註生昭惠救世元君)

ลูกชายของตันจิ้งโกว เลาฉอง ได้รับการแต่งตั้งเป็น เหลงย่องไท่โปส่ำเสี่ยหยิน (靈勇太保三舍人)

ลูกบุญธรรมคนโต เปาต้าเที๊ยะ ได้รับการแต่งตั้งเป็น อิ้นหยองไท่โปเปาเสี่ยหยิน (引陽太保包舍人)

ลูกบุญธรรมคนที่สอง แปะก้านเส้ง ได้รับการแต่งตั้งเป็น ถ้องหมีไท่โปแปะเสี่ยหยิน (通冥太保白舍人)


เด็กชายทั้งสามคนได้รับมอบหน้าที่ในการช่วยเหลือตันจิ้งโกว ในการช่วยเหลือวิญญาณต่างๆ และปกป้องเด็กที่อยู่ในครรภ์ และทำหน้าที่ในการนำวิญญาณของเด็กที่เสียชีวิตในครรภ์ไปยังสวนดอกไม้ (花園) เพื่อรอการเกิดใหม่ต่อไป

หลังจากที่ได้ประกาศเสร็จสิ้นแล้ว ค้อจินหยินก็ได้นำตันจิ้งโกวและเด็กชายทั้งสามกลับไปยังเขาลี้ซาน

ปัจจุบันในเมืองฮกจิว (ฟูโจว ในสำเนียงจีนกลาง) ในมณฑลฮกเกี่ยน ยังมีการเล่าขานเรื่องราวนี้อยู่ โดยทุกๆปี เมื่อมีงานเฉลิมฉลอง คนที่นับถือศาสนาเต๋าได้พากันไปที่ศาลเจ้าของตันจิ้งโกวเพื่อทำการบูชาเทพเจ้าเด็กทั้งสามองค์นี้

สำหรับเปาต้าเที๊ยะ จะมีการเฉลิมฉลองกันในวันที่14 เดือน 5 จีน (農曆五月十四日)
สำหรับแปะก้านเส้ง จะมีการเฉลิมฉลองกันในวันที่13 เดือน3 จีน (農曆三月十三日)
ส่วนเลาฉอง จะมีการเฉลิมฉลองกันในวันที่ 9 เดือน5 จีน (農曆五月初九日- ซึ่งตรงกับวันที่ท่านตันจิ้งโกวตั้งครรภ์ครับ)

ไม่มีความคิดเห็น: