วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กัวจื่ออี๋ - 郭子儀 ตอนที่ 3 ชัยชนะครั้งแรก

ชัยชนะครั้งแรก




ด่านถงก้วน - ภาพนี้ตีพิมพ์ประมาณต้นปี ค.ศ.1946

มี การบันทึกเกี่ยวกับตัวกัวจื่ออี๋น้อยมาก ก่อนเกิดเหตุการณ์กบถอันสื่อ เพราะชื่อเสียงของท่านกัวจื่ออี๋ เริ่มมีปรากฎในหลักฐานต่างๆก็ในช่วงเกิดการกบถนี้เอง

ช่วงเวลาที่เกิดกบถอันซื่อในปี ค.ศ.755 กัวจื่ออี๋ ได้รับมอบหมายให้ป้องกันด่านถงก้วน (潼關-ปัจจุบันอยู่บริเวณเมืองเว่ยหนาน
渭南 มณฑลส่านซี 陕西) ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของชายแดนในตอนนั้น กองทัพกบถของอันลู่ซาน (安禄山)ยก กำลังมาถึงหนึ่งหมื่นคน ซึ่งเป็นถือได้ว่าเป็นทัพขนาดใหญ่เลยทีเดียว ทัพของอันลู่ซานเหนื่อยล้าจากการเดินทางและได้ตั้งค่ายอยู่หน้าด่าน


กัว จื่ออี๋ไม่ปล่อยให้โอกาสดีเช่นนี้พลาดไป จึงใช้สถานการณ์ที่ได้เปรียบนี้ ปลุกขวัญและกำลังใจของทหารตนให้มีความฮึกเหิม ต่อสู้กับฝ่ายกบถเพื่อปกป้องครอบครัวของตน ปกป้องด่านถงก้วน และปกป้องนครฉางอันซึ่งเป็นเมืองหลวงในขณะนั้น ในระยะเวลาไม่กี่วัน ทัพของกัวจื่ออี๋ได้ฆ่าทหารของทัพกบถอันลู่ซานได้ถึงเจ็ดพันนาย ใน ”สนามรบชิงปี่” และได้จับทหารกบถเป็นเชลยได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ท่านกัวจื่ออี๋ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกของท่าน

ต่อมาในปี ค.ศ.756 เมืองฉางอันล่มสลาย เพราะการโกงกินขายชาติของขุนนางหยางกั๋วจง
(楊國忠)และพวก ทำให้จักรพรรดิถังเสวียนจง (唐玄宗) ต้องระเหเร่ร่อนทิ้งเมืองฉางอัน (長安) หนีไปเมืองเฉิงตูไปพร้อมกับทหารองครักษ์ และสนมหยางกุ้ยเฟย (楊貴妃) ต่อมาหยางกั๋วจงและพวกโดนทหารฝ่ายจักรพรรดิถังสวนจงจับได้และฆ่าเสีย รวมไปถึงจักรพรรดิถังสวนจงก็โดนทหารกดดันจนต้องลงโทษสนมหยางกุ้ยเฟยด้วยการ ให้ผูกคอตาย



จักรพรรดิถังเสวียนจง

เรื่อง ที่ถังเวียนจงต้องทิ้งเมืองหลวงนั้น เป็นเรื่องที่หน้าขายหน้าเป็นที่สุดครับ และหยางกั๋วจงได้สร้างความโกรธแค้นให้กับชาวเมืองฉางอัน และข้าราชการทั้งบู้ทั้งบุ๋นในตอนนั้นอย่างมาก ประวัติศาสตร์ตอนนี้มีมาทำเป็นหนังและงิ้วมากมายครับ รวมไปถึงเรื่องราวของหยางกุ้ยเฟยด้วย

ในเวลาเดียวกันนั้น กัวจื่ออี๋ต้องประจัญหน้ากับรับมือกับทัพของกบถถึงหนึ่งแสนนาย ซึ่งนำทัพสื่อซือหมิง (史思明) ใน ขณะที่กองทัพของกัวจื่ออี๋มีเพียงทหารแค่หนึ่งหมื่นนายเท่านั้น กัวจื่ออี๋วางแผนประวิงเวลาเพื่อรอกองทัพหนุนจากเมืองหลวง โดยวางแผนลวงต่างๆ เพื่อสร้างความสับสนแก่ซื่อซือหมิง ทำให้ไม่กล้าเข้าปะทะกับกัวจื่ออี๋ ด้วยแผนการนี้กัวจื่ออี๋สามารถซื้อเวลาได้ถึงสี่สิบวันเลยทีเดียว

ในเวลานั้นเอง กองทัพหนุนจากเมืองหลวงนำโดยแม่ทัพหลี่กวงปี้ (李光弼) นำ ทหารถังเก้าหมื่นนายตามมาสบทบ จึงทำการปะทะกับทัพกบถ และทำให้ทัพกบถสูญเสียทั้งสิ้นหนึ่งแสนนาย ส่วนกองทัพถังก็เสียหายไม่น้อย ส่วนสื่อซือหมิงถอยทัพที่เหลือเพียงน้อยนิด ถอยไปเลียแผลที่เมืองฟ่านหยาง(范陽) ต่อ มาหลี่กวงปี้นำกัวจื่ออี๋เข้าเฝ้าจักรพรรดิถังเสวียนจง เพื่อได้ทูลขอทหารนำทัพเข้าตามตีทัพของสื่อซือหมิงที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด แต่ถังสวนจงก็ปฏิเสธคำขอ การได้รับปฏิเสธจากถังเสวียนจง เป็นการพลาดโอกาสในการกำจัดสื่อซือหมิง อุปมาเหมือนปล่อยเสือบาดเจ็บเข้าป่าให้รักษา ซึ่งจะทำความยุ่งยากในอนาคตตามมา



อย่างเกริ่นในตอนสองนะ ครับ ความวุ่นวายทั้งหลาย เกิดจากพวกเจียะตู้สื่อ ซึ่งมีอำนาจบาตรใหญ่ เช่นอันลู่ซาน ซึ่งเป็นเจียะตู้สื่อกินถึงสามหัวเมืองคือ พิงลู่ 平盧, ฟ่านห ยาง 范陽 และเหอเป่ย 河北 และสามหัวเมืองนี้อยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นจุดที่มีการค้า ขายคึกคักจุดหนึ่งของจีนในสมัยนั้น ประกอบกับภายในราชสำนักเองซึ่งอ่อนแอมากจากพวกคอรัปชั่นของขุนนาง ซึ่งโอกาสนี้ยั่งยวนอันลู่ซานให้ก่อกบถได้ง่ายๆครับ

แหมม เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์นี่ ช่างวนรอบจนถึงปัจจุบันนะครับ นักการเมือง มัวแต่ทะเลาะกันเองหาผลประโยชน์ใส่ตัวกันมากเท่าไหร่ เปรียบเหมือนโรคร้ายในตัวเราที่เป็นหนักขึ้น ทีนี้คนภายนอกจะเข้ามาทำร้ายนี่ง่ายมากเลย ประวัติศาสตร์มีไว้ให้ซ้ำรอยจริงๆ


หยางกุ้ยเฟยและถังเสวียนจง

ไม่มีความคิดเห็น: