วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
โค้วจินหยินก่ำเที้ยนไต่เต่โปก่อ - 感天大帝許遜寶誥
บุ๋นเเชียงเต้กุนโปก่อ - 文昌帝君寶誥
不驕樂境。玉真慶宮。
現九十八化之行藏。
顯億千萬種之神異。
飛鸞開化於在在。
如意救劫於生生。
至孝至仁。
功存乎道儒釋教。
不驕不樂。
職盡乎天地水官。
功德難量。威靈莫測。
大悲大願。大聖大慈。
九天輔元。開化主宰。
司祿職貢真君。
七曲靈應。
保德宏仁大帝。
談經演教。消劫行化。
更生永命天尊。
อ๋องเหลงกวนโปก่อ - 王靈官寶誥
วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
กัวจื่ออี๋ - 郭子儀 ตอนที่ 3 ชัยชนะครั้งแรก
ด่านถงก้วน - ภาพนี้ตีพิมพ์ประมาณต้นปี ค.ศ.1946
มี การบันทึกเกี่ยวกับตัวกัวจื่ออี๋น้อยมาก ก่อนเกิดเหตุการณ์กบถอันสื่อ เพราะชื่อเสียงของท่านกัวจื่ออี๋ เริ่มมีปรากฎในหลักฐานต่างๆก็ในช่วงเกิดการกบถนี้เอง
ช่วงเวลาที่เกิดกบถอันซื่อในปี ค.ศ.755 กัวจื่ออี๋ ได้รับมอบหมายให้ป้องกันด่านถงก้วน (潼關-ปัจจุบันอยู่บริเวณเมืองเว่ยหนาน 渭南 มณฑลส่านซี 陕西) ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของชายแดนในตอนนั้น กองทัพกบถของอันลู่ซาน (安禄山)ยก กำลังมาถึงหนึ่งหมื่นคน ซึ่งเป็นถือได้ว่าเป็นทัพขนาดใหญ่เลยทีเดียว ทัพของอันลู่ซานเหนื่อยล้าจากการเดินทางและได้ตั้งค่ายอยู่หน้าด่าน
วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
กัวจื่ออี๋ - 郭子儀 ตอนที่ 2 ชีวิตวัยเยาว์
กัวจื่ออี๋ (ปี ค.ศ.697 ถึง 9 กรกฎาคม ค.ศ.781)
กัว จื่ออี๋ เป็นชาวเมืองหัวเจียง มณฑลส่านซีในปัจจุบัน (华州郑县人) แต่บรรพบุรุษของท่านคือชาวเฟิ่นหยาง มณฑลซานซีในปัจจุบัน (山西汾阳) บิดาชื่อ กัวจิ้งจือ (郭敬之) ซึ่งเป็นข้าราชการท้องถิ่นอยู่ ณ เมืองหัวเจียงนั้นเอง ท่านมีความพิเศษที่ต่างจากสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ คือ ท่านได้เข้าสู่ชีวิตการเมืองโดยการสอบวิชาศิลปการต่อสู้ หรือวิชาบู๊ซึ่งเป็นการสอบเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ในกองทัพ แทนที่ท่านจะเข้าสอบวิชาบุ๋นเหมือนสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวของท่าน ว่ากันว่าท่านมีความสูงถึงเจ็ดฟุตสามนิ้วเลยทีเดียว ซึ่งถ้าเป็นจริงนั้น ท่าจะเป็นคนที่รูปร่างโตมากครับ ชีวิตในช่วงวัยรุ่นของกัวจื่ออี๋มิได้ถูกบันทึกไว้มากนัก แต่จะเริ่มมีหลักฐานเรื่องราวการบันทึกจำนวนมากในช่วงที่ท่านเริ่มเป็นข้า ราชการทหารจนได้รับตำแหน่งเจียะตู้สื่อ (節度使) ครับ
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552
กัวจื่ออี๋ - 郭子儀 ตอนที่ 1 บทนำ
กัวจื่ออี๋ (郭子仪, 郭子儀) หรือ เฟินหยางจงอู่หวาง (汾陽忠武王) คือจอมพลผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงสมัยราชวงศ์ถัง ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจอมพลผู้ปราบเหตุการณ์กบถอันสื่อ (安史之亂) และป้องกันประเทศจีนจากการรุกรานของกองทัพลูกผสมของชาวอุยกูร์ (維吾爾) และชาวธิเบต (西藏)
กัวจื่ออี๋ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนายพลที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของประวัติศาสตร์ชนชาติจีน และเป็นนายพลที่ได้รับการยกย่องเคารพนับถือที่สุดของเอเชียตะวันออกในยุคที่ท่านมีชีวิตอยู่เลยทีเดียว หลังจากที่กัวจื่ออี๋สิ้นชีวิตลง ยังเชื่อกันว่าท่านได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภอีกด้วย (ฮกลกซิ่ว - 福禄寿 โดยเชื่อกันว่าท่านคือเทพเจ้าฮก)
วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552
เหว่ยหัวฉุน - 魏華存
เหว่ยหัวฉุน (魏華存) หรือ เหว่ยเสียนอาน (魏贤安) เกิดในสมัยราชวงศ์จิ้น ในปีค.ศ.251 (晉朝公元二五一年) ณ หมู่บ้านเหริ้นเฉิง เมืองจี้หนิง มณฑลซานตง (中國山东省济宁市任城) บิดารับราชการมีชื่อว่า เหว่ยซู (魏舒)
เหว่ ยหัวฉุน สามารถศึกษาคัมภีร์เต๋าต่างๆในยุคนั้นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะคัมภีร์เต้าเต๋อจิงของเล่าจื้อ และคัมภีรืเต๋าของจวงจื้อ เมื่อนางมีอายุเพียงสิบสองปีก็สามารถท่องคัมภีร์เต๋าต่างๆโดยไม่ต้องเปิด หนังสือดู และสามารถเข้าฌาณสมาธิเต๋าได้ ด้วยความแตกฉานในคัมภีร์เต๋า นางสามารถใช้ความสามารถพิเศษนี้ในการสอนแนวคิดเต๋าและยังใช้เวทมนต์วิเศษใน การรักษาผู้คนอีกด้วย
ขณะที่นางมีอายุได้ยี่สิบปี นางเริ่มเข้าป่าเพื่อเก็บสมุนไพรมาทำยารักษาชาวบ้าน โดยสมุนไพรหรือตัวยาใหม่ๆที่คิดค้นขึ้นนั้น นางจะลองชิมยาต่างๆด้วยตัวเองก่อนเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าตัวยานั้นปลอดภัย สำหรับผู้ป่วย จากการที่นางได้รับยาสมุนไพรต่างๆมากเกินไป ทำให้ร่างกายของนางเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเช่น นางไม่ต้องการกินอาหารเหมือนคนธรรมดาทั่วไป เมื่อนางมีอายุยี่สิบสี่ปี บิดาได้ให้นางแต่งงานบัณฑิษนามว่า หลิวเหวิน (刘文) เพื่อไม่ต้องการให้นางหมกมุ่นกับการปฏิบัติเต๋าและบิดานางยังเข้าใจว่า ถ้านางแต่งงานแล้ว นางคงจะไม่มุ่งมั่นในการเป็นเซียน
วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
ส่ำซานก็อกอ๋อง - 三山國王
ส่ำซานก็อกอ๋อง (三山國王) หรือเจ้าแห่งภูเขากิ้นซาน, ภูเขาเบ๋งซาน และภูเขาตกซาน (巾山, 明山, 獨山) ซึ่งเป็นสามภูเขาที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงของมณฑลกวางตุ้ง (廣東省中三座名山)
จากบันทึกกล่าวว่าท่านทั้งสามเกิดในสมัยราชวงศ์เหนือ-ใต้ (南北朝) ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ.420-450 ในวันที่สิบห้าเดือนสอง (生于農曆二月十五日) ณ บ้านแต้เอี้ยง เมืองแต้จิ่ว มณทลกวางตุ้ง (家鄉於廣東省潮州揭陽)
ทั้งสามท่านมีชื่อเรียกดังนี้ พี่คนโตไต่อ๋องชื่อเหลี่ยนเกียด ฉายาเฉ่งฮั้ว (大王: 連傑字清華) คนที่สองหยี่อ๋องชื่อติวเหียน ฉายาจ่อจิ้ง (二王: 趙軒字助政) คนที่สามส่ำอ๋องชื่อเกี๋ยวจุ้น ฉายาฮุ่ยอุ้ย (三王: 喬俊字惠威)
วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552
ฮกซานเก้ง – 福山宫
ภาพบริเวณศาลเจ้า
ฮกซานเก้ง เป็นศาลเจ้าฮกเต็กเจี้ยสิน (福德正神) ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ บริเวณถนนวิชิตสงคราม อำเภอกะทู้ เดิมนั้นมีชื่อว่า ศาลเจ้าฮกซานซู่ (福山祠) บริเวณที่ตั้งของศาลเจ้าฮกซานเก้งนั้น เป็นชุมชนทำเหมืองแร่ดีบุกโบราณที่เรียกว่า ชุมชนหลิมซาน (林山) ซึ่งเดิมจุดที่ตั้งศาลเจ้าอยู่นี้ เป็นจุดที่เป็นเส้นทางผ่านในการเดินทางระหว่างชุมชนกะทู้ และ ตัวเมืองภูเก็ต หรือเรียกว่า ทุ่งคา ในสมัยก่อน
วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552
คายบั้นเส้งอ๋อง - 開閩聖王
คายบั้นเส้งอ๋อง (開閩聖王) มีชื่อเดิมว่า อ๋องสิ้มจ่าย (王審知) หรืออ๋องซินท้ง(王信通) หรืออ๋องช่งหย่ง (王祥鄉) ซึ่งต่อมาได้รับการสถาปนาเป็น บั้นไท่จ้อ (閩太祖) ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรบั้น หรือ บั้นก็อก(閩國) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน (เมืองฮกจิว 福州ในปัจจุบัน) ในยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร ในประวัติศาสตร์ชาติจีน
อ๋องสิ้มจ่าย เกิดในปี ค.ศ.862 เป็นชาวบ้านก่อซี่ เมืองกึ้งจิว (光州固始人 – ปัจจุบันอยู่ในมณฑลเหอหนาน 今河南省固始县分水亭乡王堂村) บิดาชื่ออ๋องสู่ (王緒) มีพี่ชายอีกสองท่านชื่ออ๋องสิ้มเตี่ยว (王審潮) และ อ๋องสิ้มกุย (王審邽) ในปี ค.ศ.885 ทั้งสามพี่น้องได้นำทัพทหารจำนวนมากลงมาทางใต้ที่มณฑลฮกเกี้ยน เมืองจิ่นกัง (福建省晉江市) และในปี ค.ศ. 909 ทั้งสามพี่น้องก็ประกาศให้บริเวณมณฑลฮกเกี้ยน เป็นประเทศราช โดยให้ชื่อว่า บั้นก็อก (閩國) หลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ถัง หรือตึ่ง (唐)
เนื่องจากอ๋องสิ้มเตี่ยว และอ๋องสิ้มกุย พี่ชายของท่านทั้งสองมีอายุมากแล้ว จึงได้ยกให้ท่านอ๋องสิ้มจ่าย เป็นกษัตริย์ หรือ บั้นอ๋อง (閩王) ครองอาณาจักรบั้น โดยใช้ชื่อ คายบั้นอ๋อง (開閩王) หรือ จงอี่อ๋อง (忠懿王) และฮูหยินของท่าน อึ่งหุ่ยโกว (黃惠姑) ก็ได้รับการสถาปนาเป็นบั้นก็อกฮองเฮา (閩國皇后) อย่างไรก็ตามต่อมาภายหลังพี่ชายของท่านทั้งสองก็ได้รับการสถาปนา โดยอ๋องสิ้มเตี่ยว ได้เป็นที่ ตึ่งก่องบู้อ๋อง (唐廣武王) และ อ๋องสิ้มกุย เป็นบู้ซกอ๋อง (武肅王)
บั้นก็อกในยุคนั้นค่อนข้างเป็นประเทศที่ยากจน ท่านจงอี่อ๋องจึงพยายามที่จะชักจูงผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามารับราชการ และวางนโยบายในการกระตุ้นการพัฒนาพื้นที่ที่มีความยากลำบากในบริเวณชายฝั่งทะเล ท่านได้สร้างระบบข้าราชการที่มีประสิทธิภาพ ระบบภาษี และระบบการค้าขายที่ตรงไปตรงมา รวมไปถึง การพยายามให้การสนับสนุนการค้าขายทางทะเลอีกด้วย
ท่านจงอี่อ๋อง อ๋องสิ้มจ่าย สิ้นประชมน์ในปี ค.ศ. 925 รวมสิริอายุได้ 63 ปี จากนั้นลูกชายของท่านที่ชื่ออ๋องเอี่ยนฮาน (王延翰) ได้รับสืบทอดบังลังค์ต่อ และได้สถาปนา ท่านจงอี่อ๋อง อ๋องสิ้มจ่าย เป็นบั้นไท่จ้อ 閩太祖อย่างไรก็ตามบั้นก็อกได้ถูกทำลายโดยอาณาจักรหล่ำตึ่ง หรือหนานถัง หรือถังใต้ (南唐) ในปี ค.ศ.945
ด้วยความดี ความเสียสละอย่างเหนื่อยยากของท่าน ในการตั้งใจพัฒนาเมืองฮกเกี้ยนในสมัยนั้น ทำให้ผู้คนยกย่องบูชากราบไหว้ท่านอ๋องสิ้มจ่ายเป็นเทพเจ้า และถือว่าท่านเป็นเทพบรรพบุรุษของคนแซ่อ๋องอีกด้วย
ชาวเมืองกิมหมึง (金门) ฮกจิว (福州) นำกิมสิ้น (金身) ของท่านคายบั้นเส้งอ๋อง ออกแห่รอบเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล
(ภาพจาก http://www.chinataiwan.org)
ภาพป้ายสุสานของท่านจงอี่อ๋อง ณ ภูเขาเหลี่ยนฮั้ว (莲花山) เมืองฮกจิว (福州)
(ภาพจาก http://www.izy.cn)
ภาพศิลาจารึกที่พบในบริเวณสุสานของท่าน ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ศาลเจ้า 闽王祠 เมือง 海西
(ภาพจาก http://www.fjwh.net)
อ้างอิง
Mote, F.W. (1999). Imperial China (900-1800). Harvard University Press. pp. 11, 15–16. ISBN 0-674-01212-7.
http://www.chinaknowledge.de/History/Tang/rulers-min.html
http://javewu.multiply.com
http://baike.baidu.com/view/24903.htm
หมายเหตุ
ผมพยายามใช้คำอ่านจากอักษรจีนเป็นสำเนียงฮกเกี้ยนที่ใกล้เคียงที่สุด แต่อย่างไรก็ตามอาจมีการออกเสียงผิดแผกไปตามท้องถิ่นและข้อจำกัดของอักษรไทย ดังนั้นผมจึงได้ใส่อักษรจีนกำกับไว้เพื่อใช้อ้างอิงครับ
วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552
道教诸真圣号、宫阙
三清:玉清圣境元始天尊 玉几下 清微天宫
上清真境灵宝天尊 玉几下 禹馀天宫
太清仙境道德天尊 玉几下 大赤天宫
三清总号:虚无自然大罗三清三境三宝天尊 玉几下 三宝景阳宫
玉皇:昊天金阙至尊玉皇上帝 御陛下吴天通明宫
天皇:百灵之宗天皇大帝 御陛下勾陈上宫
紫微:万灵之主紫微大帝 玉几下星汉天宫
又:紫微元皇天尊 玉几下星汉天宫
后土:万灵之主后土皇地帝祗琼阙下 九华玉阙
南极:南极生长大帝统天元圣天尊 御陛下 金阙高上神霄府
四御总号:大罗玉京金阙四御四皇上帝 御陛下 四御宫
三皇:天地人甲三皇上帝 御陛下 三皇帝阙
又:开明祖劫天尊 御陛下 天地人甲宫 子会天宫
五老:东方青灵始老苍帝九气天君 阙下 青灵始老宫
南方丹灵真老赤帝三气天君 阙下 丹灵真老宫
西方皓灵皇老白帝七气天君 阙下 皓灵皇老宫
北方五灵玄老黑帝五气天君 阙下 五灵玄老宫
中央元灵元老黄帝一气天君 阙下 黄灵元老宫
五老总号:天地始祖五老上帝 阙下 五老帝阙
王母:万仙至尊玉池王母宠德碧霞元君 懿前 瑶池仙宫
斗姥:“圣德巨光天后摩利支天大圣先天斗姥元君獬座下 大梵天宫
九皇:天英:北斗第一阳明贪狼太星君 垣下 天元宫 太上宫
天任:北斗第二阴精巨门元星君 垣下 地元宫 中元宫
天柱:北斗第三真人禄存贞星君 垣下 日元宫 真元宫
天心:北斗第四玄冥文曲纽星君 垣下 月元宫 纽幽宫
天禽:北斗第五丹元廉贞罡星君 垣下 江元宫 纲神宫 ,
天辅:北斗第六北极武曲纪星君 垣下 河元宫 阳宫
天冲:北斗第七天关破军关星君 垣下 海元宫 关会宫
天芮:北斗第八洞明外辅星君 垣下 帝座宫 帝度宫
天蓬:北斗第九隐光内弼星君 垣下 上尊宫
九星总号:中天大圣北斗九皇九真延生解厄上道星君 玉垣下 北斗九皇宫
七星:中天大圣北斗七元延生星君 垣下 北斗旋玑宫
五斗:五方五宿五斗星君 垣下 五极星宫
五星:金木水火土五镇星君五行应运天尊星垣下 造化利生宫
生神:九天自然生神上帝 阙下 九天生神玉京宫
无量:三十二天上帝度人无量天尊 御陛下 度人无量宫 无量天皇宫
真武:玉虚师相玄天上帝金阙化身荡魔天尊御陛下 北极真武宫
天真皇人:校经主宰大夫天真皇人 法幕下 画一天宫
广成:太玄元父广成天师金亭序事赞化祖师真君法篆常中 天尊青城洞天宫
木公:东华木公青童道君 阙下 东极紫府
金母:西极金母宏慈大妙元君 琼阙下西灵无上宫
太阳:日宫郁仪帝君慈辉朱日天尊 垣下郁仪扶桑宫
太阴:月府结磷皇君妙果素月天尊 垣下素曜天宫
三星:紫微龙德福禄寿三星真君宏德广应天尊 星垣下 天德福幕宫
魁星:文衡大帝南极斗口魁神星君广播帝教天尊 星垣下 奎光保运府
又:九天宣化扶文启运魁斗星君 垣下 保运府
天官:上元九气赐福天官曜灵元阳大帝紫微帝君总真应见天尊 宝阙下 上元覃恩府
地官:中元七气赦罪地官洞灵青虚大帝青灵帝君平等应善天尊 宝阙上 中元覃宥府
水官:下元五气解厄水官金灵洞阴大帝旸谷帝君法流远洽天尊 宝阙下 下元通济宫
火官:赤元上品三气火官炎帝真君洞阳大帝南丹纪寿天尊 荧惑宫
三官总号:玉真天地水府三元三品三官大帝阙下三元妙纬宫 三元总圣宫
雷祖:高上玉霄九天雷祖大帝除灾利物天尊法陛下 禹极雷霆宫
雷神:高上神霄九天应元雷声普化天尊神霄光明大帝 法陛下 九天应元府
救苦:太乙救苦天尊青玄九阳上帝 狮座下 东极妙严宫
张天师:祖师三天扶教辅元体道雷霆玄省天机内相冲应孚佑真君 法幕下天机府
葛天师:太级左宫仙翁雷霆玄省天机内相冲应孚佑真君 法陛下 天机府
许天师:九州都仙大史雷霆泰省天枢伏魔上真神功妙济真君 法幕下 天机府
萨天师:祖师先天教主掌风云雷雨尚书一元无上萨翁真君 法幕下 天机府
天王君:先天一气威灵显化天尊 麾下都天豁落府
马天君:正一监经灵官马天君 麾下 六天火府
四灵官:玄帝御前护卫三境四灵四圣王马赵温四大元帅 麾下 丹天风火院
中极马赵温岳:祖师中极人天圣主广济高真开元普化救苦天尊 御前 中极太玄宫
四极:金阙都堂主宰天蓬天猷翌圣佑圣四真君 法陛下 金阙都堂院
八仙:吕祖:纯阳演正警化孚佑帝君兴行妙道天尊 演正天宫
曹祖:黄华洞天帝主超凡入圣天尊 黄华洞天
蓝祖:万华洞天帝主流光耀采天尊 万华洞天
李祖:西华洞天帝主超登莲华天尊 西华洞天
张祖:中条洞天帝主通玄应变天尊 中条洞天
韩祖:瑶华洞天帝主圆通早觉天尊 瑶华洞天
何祖:清霞洞天仙姑宏慈妙法元君 青霞洞天
钟祖:终南洞天帝主飞行救劫天尊 威烈猛义府
东岳:东岳天齐大生仁元圣帝 陛下蓬玄天宫 东岳泰岱宫
西岳:西岳金天大利顺圣上帝 陛下 素元天宫 太华宫 灏灵天宫
南岳:南岳司天大化召圣上帝 陛下衡霍宫南岳宸霆宫
北岳:北岳安天大贞元圣上帝 陛下洞渊天宫 垣庐宫
中岳:中岳中天大宁祟圣上帝 陛下大光天宫 嵩阳宫
幽用北岳:祖师北岳教主龙德上真玉眸炼质天尊 陛下 北岳上宫
五岳丈人:灵枢毓秀五岳丈人大元解惠天尊圣前 五岳灵妙宫
南岳魏夫人:云霞玉女大法教主南岳夫人魏元君开玄道济天尊 法幕下云霞大法院
十方灵宝:十方太上灵宝天尊 位下 十方灵宝宫
诸神总号:天地三界十方万灵真宰神光普照天尊 位前 三界总圣宫
孔子:大成至圣先师孔子文宣王兴儒盛世天尊玉几下 大成殿
文昌:谈经演教消劫行化更生永命天尊圣前 玉真庆宫
关帝:敕封三界伏魔大帝忠义神武关圣帝君神威远镇天尊 圣前 丹天伏魔宫
五祖七真:邱祖 紫府清和宫 郝祖 广宁宫其馀皆用 蓬莱宫
黄石公:玉京开化真君 金华洞天
留候:校经主宰天枢上相法主道君天尊 天枢院
药王:九天采访三界药王天医大圣开元普度天尊 圣前 药王妙济宫 天医采访院
九天采访使:高上景霄九天采访使者应元保运妙化天尊 九天保运宫
六波:高上紫霄六波天主帝君普施法润天尊御前 六波天主宫
子牙:太公宠元广庆天尊 圣前 霄难宫
太白:太白太素小阳白皇上真帝君 圣下太白太素宫
水神:水府扶桑丹霞大帝 扶桑宫
龙王:天衣玄皇辰极灵威壬癸龙王伺辰真君甘露流润天尊 圣前 天一紫皇宫 水晶宫
杨四将军:九水天灵大元帅紫云统法真君水国镇龙安渊王 灵源通济天尊圣前 紫云台上
金龙大王:敕封洞庭郡主金龙大王柳真君 宫下 洞庭郡主宫
靖江大王:敕封水府丁三舍人龙虎将军靖江大王圣前 靖江大王府
萧公:九天涵泻大司马天泗皇君泛航海济真人圣前 水府天泗宫
宴公:海源主宰宴公丈人持衡稳天尊 圣前 奠安御宇府
李公:灵源主宰李公神师观风镇浪靖海真君圣前 平波府
氲神:天府宪府统瘟都天都总管金容大帝麾下 都天宪府
虫蝗:万灵法主治化生民驱灭螟蝗主宰十方八腊护国彰灵王 圣前 罗天八腊殿
山神:敕封护国佑民猛烈将军威灵感应普德天尊麾下猛烈帅府
财神:正一福禄财神真君 位前 福禄宫
仓神:岁洽丰粮天尊 位前 乌丰稔浩宫
马王:青城柏山马王尊神 马司宫
牛王:青城桐山牛王尊神 牛司宫
圣母:三仙圣母碧霞元君 懿前 天妃宫
又:三仙送子娘娘慈懿育慧元君 座下 太乙广生宫
又:多儿多女九天卫房圣母元君 懿前 圣女逍遥宫
张仙:抱阳辅阴张大仙 育婴宫
土地:中央镇位真官土地大道神 位前戊已宫 福德宫
灶君:九天东厨司命太乙元皇定福奏善天尊位前 奏善宫
文佛:通天彻地中天教主释迦牟尼文佛灵鹫宝山
观音:广大灵感观世音真人圆通自在天尊莲座下 落迦山
九幽:圣师慈悲教主九幽拔罪天尊御前 九德靖幽宫
城隍:辅德大王威灵感应天尊 圣前 福德殿威灵宫
酆都:北阴酆都天子地府玄卿大帝 北阴酆都宫
鬼王:幽冥教主冥司面然之鬼王由孑大帝麾下 由孑宫
十王:冥京十王慈仁真君金定玄通天尊案下冥京十王宫
一殿秦广大王泰素妙广真君 金案下 玄明宫
二殿楚江大王阴德定体真君 金案下 普明宫
三殿宋帝大王洞明善静真君 金案下 纣绝宫
四殿五官大王玄德灵真真君 金案下 太和宫
五殿阎罗天子最胜耀灵真君 金案下 纣伦宫
六殿卞成大王宝肃昭成真君 金案下 明辰宫
七殿泰山大王神变万灵真君 金案下 神化宫
八殿平等大王无上证度真君 金案下 七非宫
九殿都市大王飞魔演庆真君 金案下 碧真宫
十殿转轮大王武化威灵真君 金案下 肃英宫
二十四分位宫阙:
九霄神霄宫 九气天宫 东华上相宫
七政星宫 灵宝五师宫 九天司命宫
上清真境宫 度人注生宫 三元妙纬宫
诸天琼阙宫 天曹景命宫 北极紫微宫
天景上圣宫 三界总圣宫 经箓众真宫
水府扶桑宫 岳帝蓬玄宫 冥京十王宫
绝阴天宫 香火琳宫 阳界祀典宫
都天大雷宫 家堂福德宫 威灵宝殿三界通神宫
วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552
ซำไน้ฮูหยินโปก่อ - 三娘夫人
臨水夫人陳靖姑寶誥
至心皈命禮
閭山學法。
道果超倫。
妙奧精通。
手持寶劍而滅怪。
玄機洞徹。
腳踏白蛇以成神。
忠貞沖日月。
義氣貫風雲。
扶社稷。
德佩乾坤。
保蒼黎。功參造化。
孝行克守。
消世上之災殃。
仁愛長存。
施人間之雨露。
名登紫府。果證瑤閽。
大悲大願。至靜至仁。
臨水宮陳奶夫人。
昭惠崇福護國救世元君。
臨水宮林奶夫人寶誥
志心皈命禮。
玄機鍛鍊。懿行克敦。
道德勤修。救蒼生之厄難。
神威顯赫。解赤子之災殃。
賞善罰惡。化劫施恩。
有求皆應。無感不通。
收妖滅怪。灑甘露於塵寰。
逐穢驅邪。施膏澤於世宇。
心抱仁慈。願安社稷。
性存忠勇。眷顧垓埏。
名登紫府。果證瑤閽。
大悲大願。至靜至仁。
臨水宮林奶夫人。
護國普濟元君。
臨水宮李奶夫人寶誥
志心皈命禮。
懿德昭穆。閫範流芳。
消災賜福。化劫施恩。
玄機勤鍊。保衛四處黎民。
妙奧精微。眷顧十方赤子。
收邪妖而宏法力。
斬魔鬼以顯神通。
威聲赫濯。慈悲度人。
護國安邦。功德浩大。
除逆撫順。道法無窮。
名登紫府。果證瑤閽。
大悲大願。至靜至仁。
臨水宮李奶夫人。
護國平閩元君。
วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2552
เฮี้ยหู้อ๋องเอี๋ย - 邢府王爺
มีชื่อเดิมว่าเฮี้ยผิง (邢鵬) หรือเฮี้ยเที้ยนเจี้ย (邢天正) เกิดในวันที่ 23 เดือน 8 (農曆八月廿三日) ปี ค.ศ.666 ตรงกับสมัยราชวังศ์ต่ง หรือ ถังในภาษาจีนกลาง (生于唐乾封元年) บ้านเกิด ณ เมืองเล็กเสีย มณฑลโห่ตั่ง (祖籍與河東歷城縣)
ชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัวต้องอพยพจากเมืองเล็กเสีย ไปอยู่ที่เมืองจ๋วนจิว ฮกเกี้ยน (遷移至福建省泉州市) เนื่องจากเมืองเล็กเสียนั้นประสบปัญหาน้ำท่วมบ่อยมาก เมื่อถึงเมืองจ๋วนจิว เงินทองของครอบครัวก็ใช้หมดไปกับการอพยพ ทำให้บิดาของท่าน ต้องแบกหน้าไปหยิบยืมเงินของคนรู้จัก เพื่อน และผู้ปล่อยเงินกู้ต่างๆ
แต่ถึงครอบครัวจะลำบากยากจนเพียงใด ท่านก็ยังมานะบากบั่นเสาะหาอาจารย์ผู้มีความรู้แขนงต่างๆ เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ ทำให้ท่านมีความรู้ในด้านการปกครอง การทหาร และการแพทย์เป็นอย่างดี จนท่านมีอายุสิบเจ็ดปี ท่านได้เข้าสอบคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการ และสอบผ่านได้เป็นอันดับที่สาม
ปีหนึ่งในขณะที่ท่านรับราชการรับใช้ราชสำนักต่ง ท่านก็ได้รับคำสั่งให้เข้าไปในเขตพระราชฐานเพื่อวิเคราะห์อาการประชวรของจักรพรรดินีบูเช็คเทียน 武則天 (ตอนที่ยังไม่ได้เป็นฮ่องเต้หญิง) ด้วยความรู้วิชาแพทย์ที่ท่านเคยศึกษาในวัยเยาว์ ท่านได้วิเคราะห์อาการป่วย และได้จ่ายยาให้บูเช็คเทียนเสวย จำนวน สามมื้อ จนอาการป่วยทุเลาหายไป ทำให้ท่านได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นสูงทันที
ปี ค.ศ. 680 ท่านได้ปราบผู้รุกรานทางเหนือหรือพวกปักฮวน (北番) ทำให้ท่านได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของราชสำนักถัง ถึงท่านจะมีตำแหน่งที่ใหญ่โตเพียงใด หากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่านได้รับบาดเจ็บจากสนามรบ ท่านจะเข้าไปรักษาพวกเขาเหล่านั้นโดยตนเอง ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน และเอาใจใส่ทหารเช่นนี้ทำให้ท่านได้รับการยำเกรงและเคารพนับถือของกองทัพเป็นอย่างที่สุด
ปี ค.ศ. 690 บูเช็คเทียนขึ้นครองราชย์ต่อจากลูกชาย (唐中宗) และราชสำนักได้เรียกตัวท่านกลับเข้าวังหลวง เพื่อป้องกันท่าน ก่อกบถ เนื่องจากท่านเป็นคนจงรักภักดีกับราชวงศ์ถังมาก และไม่สามารถทนเห็นบูเช็คเทียนขึ้นครองราชย์ต่อจากฮ่องเต้ถัง และเปลี่ยนราชวงศ์ถังเป็นราชวงศ์จิวได้ (唐號至周)
ท่านจึงขัดราชโองการไม่ยอมกลับเข้าวังรับใช้บูเช็คเทียน และทำการฆ่าตัวตายเพื่อแสดงความจงรักภักดีกับราชวงศ์ถัง (忠義殉國) ในวันที่ 13 เดือน 1 (卒於農曆正月十三日) ขณะนั้นท่านมีอายุได้เพียง 33 ปี (享年三十三歲)
หลังจากที่ท่านเสียชีวิตลง ผู้ใต้บังคับบัญชา รวมไปถึงชาวบ้านต่างพากันสร้างศาลเจ้าเพื่อระลึกถึงท่าน และกราบไหว้บูชาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ปกติเราจะไม่ค่อยเห็นกิมสิ้น ของท่านเดี่ยวๆนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะอยู่กันเป็นชุด กับ จูหู้อ๋องเอี๋ยและหลี่หู้อ๋องเอี๋ยครับ
至心皈命禮。
唐代豪杰。功參雲天。
文能治國平天下。
武鎮安邦止干戈。
醫德觀群。整治亂痍。
去武后瘧疾。
得唐主封侯。
忠不移而授美名。
貴不驕而傳千年。
至仁至勇。至剛至正。
大唐勇義侯。
邢府天正王爺。
วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552
โปเส้งไต่เต่ - 保生大帝
宋朝醫仙保生大帝
ซ้องเตี่ยวอีเซียนโปเส้งไต่เต่
โปเส้งไต่เต่ (保生大帝) หรือ หง๋อจินหยิน (吳真人) หรือไต่โต่กง (大道公) มีชื่อจริงว่า หง๋อโถ (吳夲) ซึ่งต่อมามีคนเข้าใจผิดเรื่องตัวอักษร ชื่อของท่านจึงกลายเป็นหง๋อปุ้น (吳本) ไป
โปเส้งไต่เต่ เกิดวันที่สิบห้าเดือนสาม ปี ค.ศ. 979 (農曆三月十五日) ณ บ้านแปะเจียว ตั่งอัว เมืองจ่วนจิว มณฑลฮกเกี้ยน (中國福建泉州同安白礁鄉) ตรงกับสมัยราชวงศ์ซ้อง ปีไท่เพ่งเฮงก็อกที่สี่ รัชสมัยฮ่องเต้ซ้องไท่จง(宋太宗太平興國四年)
เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านการแพทย์และการเภสัชกรรม รวมไปถึงได้ทำการรักษาผู้คนจากโรคระบาดต่างๆ ท่านจึงได้รับการยกย่องให้เป็น เทพเจ้าแห่งการแพทย์ (醫神) มาตั้งแต่ยุคสมัยนั้น
ในสมัยเด็ก ท่านเป็นเด็กที่มีความฉลาด สามารถท่องจำและเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องยารักษาโรคต่างๆ และขณะเมื่อท่านมีอายุสิบเจ็ดปี เชื่อกันว่าท่านได้เรียนวิชาอาคมจากไซอ๋องโบ้ (西王母) อีกด้วย
ขณะที่ท่านอายุยี่สิบสี่ปี ท่านได้ผ่านการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ และได้บรรจุเป็นเจ้าพนักงานตรวจราชการ จากนั้นในเวลาต่อมาท่านก็ได้ลาออกจากราชการ เพื่อฝึกปฏิบัติเต๋า อยู่บนภูเขา ณ บ้านแปะเจียว (白礁) นั้นเอง
ในชีวิตของท่าน ท่านไม่เคยออกเรือนมีครอบครัวและท่านยังเป็นมังสวิรัช ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และเหนือสิ่งอื่นใดคืออุทิศชีวิตในการศึกษาเรื่องการแพทย์และการเภสัชกรรมในการรักษาบรรเทาทุกขเวทนาของประชาชน
ในวันที่สองเดือนห้า ปี ค.ศ. 1036 ตรงกับปีกิ้งอิ่วที่สาม รัชสมัยฮ่องเต้ซ้องหยินจง(宋仁宗景佑三年)ท่านก็ได้สำเร็จเป็นเซียนโดยมีนกกระเรียนมารับท่านไปสู่สรวงสวรรค์ ชาวบ้านที่เห็นต่างพากันคุกเข่ากราบไหว้ท่าน ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลากลางวันมองเห็นชัดเจน โดยท่านได้สำเร็จเป็นเซียนเมื่ออายุห้าสิบแปดปี
หลังจากที่ท่านสำเร็จเป็นเซียนได้มีเหตุการณ์ปาฏิหารย์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ท่านได้ช่วยเหลือประชาชนรวมไปถึงชาติบ้านเมืองด้วย อาทิเช่น
ศาลเจ้าโปอานเก็ง (大龍峒保安宮) ณ กรุงไทเป (ปี ค.ศ.1918)
ในสมัยที่ซ้องโกจง (宋高宗) ยังเป็นรัชทายาทอยู่นั้น ได้ถูกส่งตัวไปราชสำนักกิม (金國) เพื่อเป็นตัวประกัน และโปเส้งไต่เต่ ได้แสดงปาฏิหารย์ในการปกป้องซ้องโกจงให้กลับมาที่ราชสำนักซ่งได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเมื่อซ่งเกาจงขึ้นครองราชย์ จึงได้มีคำสั่งให้สร้างศาลเจ้าของโปเส้งไต่เต่ขึ้น และถวายชื่อท่านเป็นที่ ไต่โต่จินกุน (大道真人)
ในยุคต่อมาสมัยราชวงศ์เหม็งเฉี๋ยจ้อ(明成祖)ฮองเฮาบุ๋น(文皇后) ได้เป็นโรคติดเชื้อที่หน้าอก หมอหลวงทั้งวังและนอกวังหมดปัญญารักษาให้หาย โปเส้งไต่เต่แปลงกายเป็นนักพรต วิเคราะห์ชีพจรฮองเฮาบุ๋นผ่านเส้นด้าย และรักษาโรคจนหาย ฮ่องเต้เหม็งเฉี๋ยจ้อต้องการประทานรางวัลให้ท่าน แต่ท่านก็ปฏิเสธพร้อมทั้งนั่งกระเรียนบินหายไป
ฮ่องเต้เหม็งเฉี๋ยจ้อซาบซึ้งในตัวของโปเส้งไต่เต่มาก จึงถวายชื่อท่านให้เป็นที่ 恩主昊天金闕御史慈濟醫靈妙道真君萬壽無極保生大帝 พร้อมทั้งประทานเข็มขัดมังกร และสร้างศาลเจ้าให้ท่าน
ปัจจุบันมีศาลเจ้าของท่านมากกว่า 200 แห่งในไต้หวัน แต่ศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในไต้หวันคือ ศาลเจ้าโปอานเก็ง (大龍峒保安宮) ที่ตั้งอยู่ ณ กรุงไทเป ซึ่งก่อสร้างโดยชาวตั้งอัวที่อพยพมาอยู่ไทเป ในสมัยฮ่องเต้เฉียนหลง ราชวงศ์เช็ง
ยันต์กระดาษที่ผู้เขียนได้จากศาลเจ้าโปอัน สังเกตุเห็นว่าทางซ้ายจะมีชื่อของโล่เชี้ยและทางขวาจะมีชื่อของแม่ทัพเสือดำ
ยันต์ของโปเส้งไต่เต่ชนิดใช้ห้อยคอ (ภาพถ่ายด้านหน้า และด้านหลัง) หุ้มด้วยพลาสติก จากศาลเจ้าโปอัน
หลังจากที่ได้ยันต์มาแล้วจะต้องเอามารมควันธูปควันเทียนก่อนเอามาใช้
1) Dalongdong Baoan temple – Religious and Architectural Arts Guide
2) 台灣的神像 – Gods of Taiwan “Neal Donnelly”
3) http://javewu.multiply.com
4) http:// www.baidu.com (http://baike.baidu.com/view/23453.htm)
หมายเหตุ
- คำอ่านออกเสียงที่ใช้เป็นสำเนียงฮกเกี้ยน
วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2552
หุ่ยเต็กจุนอ๋อง - 惠澤尊王
หุ่ยเต็กจุนอ๋อง (惠澤尊王) หรือ กงเต็กถาว (廣德侯) มีชื่อเดิมว่า เอี๊ยบซิ้ม (葉森) บิดาชื่อเอี๊ยบเต๋งเหี้ย (葉廷显) มารดาแซ่ตัน (葉門陳氏) เกิดวันที่สิบเดือนสิบสอง (誕辰為農曆十二月初十) ในยุคราชวงศ์ซ้องใต้ (ปี ค.ศ.๑๑๘๙) รัชสมัยซุนฮี (生於南宋淳熙年間) ณ บ้านโกเตียน หล่ำอั่ว ฮกเกี้ยน(祖籍為中國福建省南安市高田人) ท่านมีน้องชายหนึ่งคนชื่อว่า เอี๊ยบส่ำฮอก(葉三復)
จากบันทึกที่พบในศาลเจ้าบรรพบุรุษบ้านหล่ำอั่ว ได้กล่าวไว้ว่าในคืนที่ท่านถือกำเนิดนั้นได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นมากมายในบ้านของท่าน รวมไปถึงทั้งหมู่บ้านหล่ำอั่วอีกด้วย โดยปรากฎเป็นแสงสว่างสุกใสเหนือบ้านของท่าน และมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายในบ้านรวมไปถึงบริเวณใกล้เคียง และหลังจากที่ท่านถือกำเนิดออกมา ก็ปรากฎมีแสงสีม่วงพุ่งขึ้นจากห้องทำคลอดไปสู่ท้องฟ้า
ในปี ค.ศ.๑๒๐๑ ท่านมีอายุครบสิบสามปี ก็สามารถท่องจำและแต่งบทกลอนต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล้ว เมื่ออายุครบยี่สิบปีท่านก็ถือได้ว่าเป็นบัณฑิตที่เก่งกาจผู้หนึ่ง ถือแม้นว่าท่านอยู่เกิดในครอบครัวบัณฑิตแต่ท่านก็ตัดสินใจที่จะเรียนวิชาบู้เพิ่ม เพื่อป้องกันตนเอง ครอบครัว และเพื่อช่วยประเทศชาติในสภาวะสงคราม ท่านจึงตัดสินใจเรียนวิชาบู้เมื่ออายุได้ยี่สิบเอ็ดปี จนกระทั่งหลายปีต่อมาท่านก็เรียนรู้วิชาบู้จนคล่องแคล้ว และเข้ารับใช้ชาติ โดยเข้าต่อสู้กับพวกกบถและผู้รุกราน
ในปี ค.ศ.๑๒๒๑-๑๒๒๓ ท่านได้ปราบขบถและผู้รุกราน มีความดีความชอบจนได้รับพระราชทานรางวัลและตำแหน่งจากราชสำนักซ้อง และหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามระหว่างซ้องกับกิม(金朝)ขึ้น
ปี ค.ศ.๑๒๔๕ ท่านมีอายุ๕๗ ปี ท่านได้สละชีวิตตัวเองเข้าช่วยเหลือฮ่องเต้ซ้องที่ถูกกองทหารกิมบุกทำร้าย หลังจากที่ท่านเสียชีวิตลง ด้วยความจงรักภักดีขอท่าน ฮ่องเต้ได้ประทานชื่อท่านเป็นกงเต็กถาว (广德侯)
หลังจากที่อาณาจักรกิมโดนโค่นล้มลงในสมัยราชวงศ์หมิง ก็ได้มีการสร้างศาลเจ้าเพื่อสดุดีวีรกรรมของผู้รักชาติในสมัยซ้องใต้ขึ้น และ ศาลเจ้าบรรพบุรุษเพื่อรำลึกถึงหุ่ยเต็กจุนอ๋องก็เป็นหนึ่งในนั้น และได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีโดยชาวฮกเกี้ยนหล่ำอั่ว จนถึงปัจจุบัน
ลักษณะของกิมสิ้นของท่านจะมีลักษณะดังนี้ (惠澤尊王特徵)
- หน้าแดงหรือดำ (赤/黑面,雙凸眼)
- มือขวาจับเข็มขัด และมือซ้ายวางบนเข่า (右手托戴,左手扶膝)
- เท้าทั้งสองวางบนที่พักเท้าของเก้าอี้ (雙足踏座底)
เพราะลักษณะของกิมสิ้นหุ่ยเต็กจุนอ๋องที่คล้ายกับของโกยเส้งอ๋อง(廣澤尊王) ทำให้มีการเข้าใจผิดกันมากระหว่างเทพเจ้าสององค์นี้ อีกทั้งโกยเส้งอ๋องยังมีชื่อเรียกอีกนามหนึงด้วยว่า โปอันหุ่ยเต็กจุนอ๋อง (保安惠澤尊王) ซึ่งคล้ายกันมาก ทำให้คนเข้าใจผิดไปกันใหญ่ครับ
惠澤尊王寶誥
至心皈命禮。
皇天佑善。賜子於門。
森之嚴考積善德。
紫气迎眸得麟子。
幼能辨萬詞。
弱冠辯群英。
文滔武略為宋臣。
光宗祖基封王侯。
抗金難。護城河。
媲岳穆。齊三傑。
至忠至勇。至仁至誠。
大宗廣德侯。
威武惠泽尊王。
วัดของท่านที่หล่ำอั่ว
วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2552
ทิหู้หง่วนโส่ยโปก่อ - 鐵元帥寶誥
ทิฮู้หง่วนโส่ย - 鐵府元帥
ทิหง่วนโส่ย (鐵元帥) หรือ ทิเทียนกุน (鐵天君) หรือจอมพลทิ (鐵府元帥) คือหนึ่งในสามสิบหกจอมพลสวรรค์ (三十六天將之鐵頭元帥) และเป็นหนึ่งในสิบไท่โป้ (東嶽十太保) ของตั่งกักไต่เต่ (東嶽大帝) โดยทำหน้าที่ในการปราบปีศาจและทำลายพลังชั่วร้ายต่างๆ
ทิหง่วนโส่ยมีชื่อจริงว่า ทิถ่าว (鐵頭) เกิดในสมัยปลายราชวงศ์เซียง (941 – 841ก่อนปี ค.ศ. 生于商末朝代) ณ บ้านโจ่วเสีย (家鄉於石城) ท่านมีชาติกำเนิดที่น่าสนใจดังนี้ คือ จากบันทึกเทพเจ้าในศาสนาเต๋า ทิโท่วนั้นแท้จริงแล้วคือ รูปแบบ(ปาง,อวตาร)หนึ่งของแม่ทัพลักติง (六丁之氣) ที่ได้รับคำสั่งจากหยกหองซ่งเต่ (玉皇大天尊) ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยเหลือประชาราษฎ์จากการกดขี่ข่มเหงของราชวงศ์เซียง (商朝)
หลังจากที่ได้รับโองการสวรรค์ ทิหง่วนโส่ยก็ได้ลงมาบนโลกมนุษย์เพื่อเสาะหามารดาของตนเองก่อน ด้วยความช่วยเหลือจากจอมพลสวรรค์ท่านอื่น ทิหง่วนโส่ยก็ได้มาถึงบ้านโจ่วเสีย และได้พบกับสตรีแซ่ก่าน (顏氏女) ซึ่งเป็นหญิงสาวพรมจรรย์และเป็นผู้ประพฤติธรรม และในคืนนั้นเอง ทิง่วนโส่ยก็ได้เข้าฝันหญิงแซ่ก่านท่านนี้ และบอกกล่าวให้ทราบว่าตนเองจะมาเกิดเป็นลูกชายของนางและเด็กชายที่เกิดมานี้ จะนำความสงบสุขมาให้ประชาชน
หญิงแซ่ก่านหลังจากตื่นขึ้นจากความฝัน บังเกิดเป็นกระแสพลังร้อนพุ่งเข้ากระแทกท้องของนาง หลังจากนั้นนางก็ตั้งท้อง จวบกระทั่ง 10เดือนต่อมานางก็ให้กำเนิดเด็กผู้ชาย ซึ่งก็คือทิหง่วนโส่ยในวันขึ้นเจ็ดค่ำเดือนห้า (農曆五月初七日) แต่เนื่องจากนางเป็นหญิงพรมจรรย์ไม่ได้แต่งงานแต่อย่างใด ดังนั้นนางจึงให้แซ่ลูกชายนางว่า ทิ (鐵) ซึ่งแปลว่าเหล็กหรือทองแดงเป็นเพราะนางต้องการให้ ลูกชายของนางเมื่อเติบโตขึ้นมีความแข็งแร่งและกล้าหาญอดทนเหมือนเหล็กนั้นเอง
ยี่สิบปีต่อมา ทิหง่วนโส่ยเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มที่กล้าหาญ มีนิสัยโอบอ้อมอารี ช่วยเหลือผู้คนอยู่เสมอ ปีหนึ่งราชสำนักเซียงได้ส่งกองทหารออกเกณฑ์ชายหนุ่มเพื่อไปเป็นทหาร และมีทหารเลวจำนวนหนึ่งทำการปล้นสดมชาวบ้าน เมื่อทิหง่วยโส่ยรู้เข้า ท่านและเพื่อนจึงจัดตั้งกำลังขึ้นเพื่อสู้รบกับทหารเลวเหล่านั้น
ต่อมาท่านได้เดินทางศึกษาวิชาเวทมนต์ต่างๆเพิ่ม โดยเดินทางไปเสาะหาอาจารย์ตามที่ต่างๆ จนท้ายที่สุดท่านได้เดินทางมาถึงภูเขาอิมซาน (陰山) และได้เรียนวิชาอาคมจากนักพรตเต๋า
หลังจากได้ศึกษาวิชาอาคมได้เป็นระยะหนึ่ง อาจารย์ของท่านได้ให้ท่านลงเขามอบภาระกิจช่วยราชวงศ์จิว (周朝) กู้แผ่นดิน โดยให้ท่านไปอยู่กับ จิวบุ๋นอ๋อง(姬昌) เพื่อต่อสู้กับกษัตริย์จอมชั่วร้ายติวอ๋อง จากราชวงศ์เซียง
ในระหว่างทางท่านได้เดินผ่านป่าบนเขาอิมซานซึ่งเป็นที่อยู่ของปีศาจม้าไฟ (火馬โห้ย หม่า) และท่านได้ค้างคืนที่นั้น ตกกลางคืนพอท่านเริ่มหลับตานอน เจ้าปีศาจม้าไฟก็ปรากฎกายขึ้นและจะจับท่านกินเป็นอาหาร ทันทีที่ท่านได้รับรู้ถึงไอปีศาจคุกคามถึงตัว ท่านได้ใช้ขวานเหล็กของท่าน (鐵釜ท่าน อาจารย์ของทิหง่วนโซ่ยมอบให้) เข้าต่อสู้และปราบปีศาจม้าไฟได้สำเร็จ และตั้งแต่นั้นมาเจ้าปีศาจม้าไฟก็ได้ติดตามเพื่อรับใช้ท่านทิหง่วนโส่ย
จากนั้นไม่นานท่านได้เดินทางพบกับค่ายทัพของราชวงศ์จิวและได้เข้าไปแนะนำตัวกับ จิวบุ๋นอ๋อง และได้รับราชการในกองทัพร่วมกับขุนพลคนอื่นๆในการวางแผนการรบ
ในการศึกขั้นแตกหักกับกองทัพราชวงศ์เซียง ทิหง่วนโซ่ยได้เข้าไปในเขตพระราชฐานหอจี้ฮี (商宮紫虛樓) เพื่อฆ่าปีศาจจิ้งจอก หลังจากที่ฆ่าปีศาจจิ้งจอกตาย ทันใดนั้นปีศาจไฟก็ได้ก็ล้อมท่านและใช้ไฟปีศาจเข้าเผาท่านในทันที จนกระทั่งท่านโดนปีศาจไฟเผาจนตาย (เราจึงเห็นกิมสิ้นของทิหง่วนโส่ยเป็นสีดำนั้นเอง)
หลังจากวิญญาณของท่านออกจากร่าง ก็ได้ล่องลอยไปสู่สรวงสวรรค์ (天庭) เพื่อเข้าเฝ้าหยกหองซ่งเต่ (玉皇大帝) และได้รับการสดุดีและได้รับการแต่งตั้งยศเป็นที่ 威靈靈佑侯孟烈鐵元帥จากนั้นท่านก็ได้เข้าเป็นหนึ่งในสามสิบหกจอมพลสวรรค์ (玄天上帝) เพื่อติดตามเหี่ยนเทียนซ่งเต่ในการปราบพลังปีศาจชั่วร้ายต่อไป
วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2552
เตียวเซียนไต่เต่ - 張仙大帝
เตียวเซียน (張仙)หรือ เตียวเซียนไต่เต่ (張仙大帝) เป็นเทพเจ้าที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพแห่งการคุ้มครองเด็กรวมไปถึงดูแลคุ้มครองจิตวิญญาณของเด็กที่ยังรอการคลอดออกมาอีกด้วย
ตามความเชื่อเรื่องเทพเจ้าในศาสนาเต๋า ได้มีหลายบันทึกเกี่ยวกับเตียนเซียนที่แตกต่างกันไป แต่ที่นิยมกันมากที่สุดคือเชื่อกันว่าเตียวเซียน มีชื่อเดิมว่า เตียวอ้วนเสี่ยว (張遠霄) เกิดในสมัยห้าราชวงศ์สิบประเทศ (ปีค.ศ.907 – 960 生于五代十國) ณ เขาเหมยซาน (家鄉於中國眉山)
ช่วงวัยเด็กท่านเป็นเด็กฉลาดสามารถจดจำวรรณกรรม และความรู้ต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล้ว และยังสามารถนำองค์ความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันของท่านได้อย่างน่าอัศจรรย์ จวบกระทั่งในวัยหนุ่มท่านได้เดินทางท่องเที่ยวในบริเวณบ้านเกิดเพื่อใช้ความรู้ที่ท่านมีช่วยเหลือคนอื่น
ในวันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังใช้ชีวิตประจำวันอยู่นั้น ได้มีชายแก่ซึ่งมีดวงตาสี่ตาปรากฎกายขึ้นต่อหน้าท่าน และชายแก่สี่ตาได้มอบคันธนูและไข่มุกสีทอง (竹弓金彈) ให้กับท่านเตียวอ้วนเสี่ยว และได้กล่าวว่า ของวิเศษสองสิ่งนี้จะช่วยให้ท่านได้ช่วยเหลือชาวบ้านในยามประสบภัยพิบัติต่างๆ จากนั้นชายแก่สี่ตาก็อันตธารหายไป หลังจากนั้นท่านก็ได้ฝึกใช้อำนาจของวิเศษทั้งสองสิ่งจนชำนาญ
ในปีที่เตียวอ้วนเสี่ยวสำเร็จเป็นเซียนวิเศษ ปีนั้นเองได้เกิดโรคประหลาดขึ้นในบ้านเกิดของท่าน ท่านจึงอาสาที่จะสืบสาเหตุของโรคระบาดนั้น หลังจากที่ท่านได้ทำการสืบดูก็พบว่าสาเหตุของโรคนั้นเกิดจากพลังชั่วร้ายของปีศาจสุนัขดำ(天狗) ท่านจึงใช้คันศรและไข่มุกวิเศษยิงปีศาจสุนักดำจนสิ้นฤทธิ์ จนทำให้เกิดความสงบสุขในหมู่บ้านขึ้นอีกครั้ง
หลังจากที่ท่านสำเร็จเป็นเซียนวิเศษ ท่านหยกอ๋องซ่งเต่ได้แต่งตั้งท่านเป็นที่ 九天輔元開化靈應張仙大帝七曲毓聖天尊 โดยมีหน้าที่คุ้มครองเด็กๆและคุ้มครองวิญาณเด็กที่จะมาเกิดจากพลังชั่วร้ายต่างๆตั้งแต่นั้นมา
วันเกิดของท่านเตียวเซียนคือ วันที่ยี่สิบสามเดือนสิบเอ็ดจีนครับ (農曆十一月廿三日)
張仙大帝寶誥
志心皈命禮。
桂香上殿。文昌左宮。
七十二化之法身。
百千萬劫之運數。
育嗣天下。演教人間。
金彈竹弓隨身帶。
孤辰寡宿滅形蹤。
扶小子而衛通關。
蔭閨房而護難產。
聰明日益。痘疹減消。
難育者祈之便育。
難痊者禱之必痊。
大悲大願。大聖大慈。
九天輔元開化。
靈應張仙大帝。
七曲毓聖天尊。
หยกอ๋องซ่งเต่ - 玉皇上帝
ในคัมภีร์ 高上玉皇本行集经 ได้กล่าวไว้ว่า หยกอ๋องนั้นเป็นลูกของ 光严凈乐国王 และ 宝月光皇后 ตอนที่ท่านถือกำเนิดนั้นมีแสงรัศมีส่องสว่างไปทั่วอาณาจักรเลยทีเดียว วัยเด็กท่านเป็นเด็กที่มีความฉลาด ใจดี และมีเมตากรุณามาก เมื่อท่านเจริญอายุขึ้น ก็ใช้สมบัติในท้องพระคลังช่วยเหลือคนจน บริจาคทานแก่คนยากไร้ ช่วยเหลือคนพิการ และอื่นๆ (ประมาณว่าความดีทั้งหลาย ท่านทำหมด) หลังจากที่บิดาตาย ก็ปฏิเสธการรับสืบทอดเป็นกษัตริย์ แต่มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือคนทุกข์ยากต่อไป
ท่าน ตัดสินใจขึ้นภูเขา 普明香岩山 เพื่อบำเพ็ญเต๋า หลังจากที่ท่านบำเพ็ญเต๋าได้ ๓๒๐๐ กัลป์ ก็สำเร็จเป็น จินเซียน 金仙 หรือ 自然觉皇 จากนั้นอีกล้านล้านกัลป์ ท่านจึงสำเร็จเป็น หยกอ๋องซ่งเต่
เต้าโบ้และกิ้วอ๋องไต่เต่ - 斗姆 萬星之母
ก่อน หน้าเหตุการณ์บิ๊กแบงนั้น จักรวาลของเราจะมีลักษณะยืดหยุ่นเป็นก้อนเดียวครับ ซึ่งทางเต๋าจะเรียกช่วงนี้ว่า 混元期 หรือ 無極界 จากนั้นเจ้าก้อนจักรวาลนี้ได้ดูดเอาพลังจากภายนอก (外來之陽氣) เข้ามาในก้อนนี้เรื่อยๆ โดยที่พลังงานภายนอกที่โดนดูดเข้ามานี้ เต๋าจะเรียกว่า 生為斗父 โดยพลังภายนอกนี้เกิดการปะทะกับพลังภายใน內在之陰氣 ซึ่งเต๋าเรียกว่า “เต้าโบ้” 生為斗姆 และเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง (陰陽相極之氣相碰) นี้คิอเหตุการณ์การปะทะกันของหยินและหยางอย่างรุนแรงที่สุด หรือเหตุการณ์บิ๊กแบงนั้นเอง而導致天文學中所稱之為的大爆炸/大霹靂)
ขณะ ที่เกิดเหตุการณ์บิ๊กแบงนั้น ได้มีพลังงานความร้อนและรังสีในช่วงคลื่นต่างๆ ได้ถูกปล่อยออกมาอย่างมากมาย จึงทำให้เต้าโบ้นั้น มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า 巨光天后 ซึ่งแปลว่าแสงสว่างอันหาประมาณมิได้ (在兩極之氣相碰之時﹐巨大光芒及熱量被釋放﹐因此﹐斗姆又被稱之為巨光天后或紫光夫人) และ 紫光夫人 ซึ่ง แปลว่าแสงสีม่วง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงความถี่สเปรคตัมของแสงสีม่วงนั้นจะเป็นแสงที่มีความร้อนมากที่สุด และผลของการเกิดบิ๊กแบงนั้นทำให้เกิดอนุภาคที่เราเรียกว่า ดวงดาว นั้นเองครับ (在碰撞之後﹐因大能量的產生﹐小小星體因此而誕生)
พลังงาน ที่เกิดขึ้นจากการปลดปล่อยของบิ๊กแบงนั้นทำให้เกิดจักรวาลของเราและเกิดดวง ดาวต่างๆขึ้นมากมายครับ ซึ่งหลังจากการเกิดบิ๊กแบงใหม่ๆนั้น ดวงดาวต่างๆยังเป็นกลุ่มก๊าซที่มีความร้อนสูง หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาหนึ่ง พวกดาวเหล่านั้นก็เริ่มเย็นลงและมีขนาด น้ำหนัก และมีตำแหน่งโคจรที่ชัดเจนขึ้นในจักรวาล เพราะดวงดาวเกิดใหม่เหล่านี้ เริ่มมีแรงโน้มถ่วงและแรงดึงดูดระหว่างกัน เกิดเป็นวงโคจร ตามตำแหน่งต่างๆ เช่นกลุ่มดาวปักเต้า北斗星 ดาวจี๋เหว่ย 紫微星 ดาวเที้ยนอ๋อง天皇星 และดาวอื่นๆ เป็นต้น เราอาจจะพูดได้ว่าหลังจากที่มีการเกิดขึ้นของดาวต่างๆแล้ว นั้นก็คือการอุบัติขึ้นของเทพเจ้าในทางเต๋านั้นเองครับ
แล้ว เต้าโบ้เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้กำเนิดกิ๋วอ๋องไต่เต่ ได้อย่างไร นั้นเป็นเพราะกิ๋วอ๋องไต่เต่นั้น คือดาวเก้าดวงที่เกิดขึ้นหลังจากบิ๊กแบงนั้นเองครับ แต่ยังมีดาวอีกสองดวงที่เกิดขึ้นก่อนกิ๋วอ๋องไต่เต่ ผมจะลำดับวงศ์ของเต้าโบ้และกิ้วอ๋องไต่เต่ดังนี้ครับ
ทางเต๋าเองก็แยกวงศ์ของเต้าโบ้ ออกเป็นสองแบบครับ (ให้ดูรูปประกอบ) ซึ่งอธิบายได้ดังนี้ครับ
龍漢祖劫天帝周御國王斗父天尊
Emperor of Long Han Zu Jie Zhou Yu Kingdom (Dou Fu) Father of All Star Lords
聖德巨光天后大聖圓明斗姆天尊
Empress Sheng De Ju Guang (Dou Mu) Mother of All Star Lords
中天萬星教主中央紫微北極大帝
Emperor Zi Wei
(ถือ ได้ว่าเป็นลูกคนแรกของทั้งผังครอบครัว ที่๑และ๒ ครับ แต่ในผังครอบครัวที่ ๒ จื่อเหว่ย ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในกิ้วอ๋องไต่เต่ครับ แต่เป็นเทพเจ้าที่แยกฉายเดี่ยวออกมาแทน)
中天萬神之主勾陳上宮天皇大帝
Emperor Tian Huang
(นับ เป็นลูกคนที่สองครับ ของทั้งผังครอบครัว ที่๑และ๒ แต่ในผังครอบครัวที่ ๒ เทียนหวง ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในกิ้วอ๋องไต่เต่ครับ แต่เป็นเทพเจ้าที่แยกฉายเดี่ยวออกมาแทนอีกเช่นกัน )
中天大聖北斗第一陽明貪狼大道星君
Lord Bei Dou Tan Lang (1st Star - Visible)
中天大聖北斗第二陰精巨門大道星君
Lord Bei Dou Ju Men (2nd Star - Visible)
中天大聖北斗第三真人祿存大道星君
Lord Bei Dou Lu Chun (3rd Star - Visible)
中天大聖北斗第四玄冥文曲大道星君
Lord Bei Dou Wen Qu (4th Star - Visible)
中天大聖北斗第五丹元廉貞大道星君
Lord Bei Dou Lian Zhen (5th Star - Visible)
中天大聖北斗第六北極武曲大道星君
Lord Bei Dou Wu Qu (6th Star - Visible)
中天大聖北斗第七天關破軍大道星君
Lord Bei Dou Po Jun (7th Star - Visible)
中天大聖北斗第八洞明左輔大道星君
Lord Bei Dou Zuo Fu (8th Star - Invisible)
(ดาว ดวงนี้จะมองไม่เห็นครับ และในผังครอบครัวที่๑ จะแยกท่านออกมาเป็น ผู้ช่วยของเต้าโบ้แทนครับ ส่วนในผังครอบครัวที่สอง จะโดนนับเป็นลูกคนที่แปด)
中天大聖北斗第九隱光右弼大道星君
Lord Bei Dou You Bi (9th Star - Invisible)
(ดาว ดวงนี้จะมองไม่เห็นเช่นกัน และในผังครอบครัวที่๑ จะแยกท่านออกมาเป็น ผู้ช่วยของเต้าโบ้แทนครับ ส่วนในผังครอบครัวที่สอง จะโดนนับเป็นลูกคนที่เก้า)
ผังครอบครัวแบบที่ ๑
ผังครอบครัวแบบที่ ๒
ส่ำกวนไต่เต่ - 三官大帝
三官大帝 คือผู้เป็นใหญ่ในโลกสามโลก ตามความเชื่อของศาสนาเต๋านั้น สามโลกที่ว่าคือ ฟ้า(สวรรค์), ดิน และน้ำครับ (是天官、地官和水官) ทั้งสามไม่ใช่พี่น้องกันนะครับ เป็นตำแหน่งที่มีขึ้น เพื่อดูแลทั้งสามโลกในสงบเรียบร้อยครับ และ เทียนกวนนั้น ก็ไม่ใช่ หยกอ๋องซ่งเต่ แต่อย่างใดนะครับ เพราะหยกอ๋องนั้น เป็นใหญ่ทั้งสามโลกเลย พูดง่ายๆ ว่า เป็น บอส (boss) ใหญ่อีกที
ในสมัยโบราณนั้น การบูชาฟ้าดินและน้ำ สงวนไว้ให้กับกษัตรย์เท่านั้นนะครับ ชาวบ้านนั้นอนุญาติให้บูชาบรรพบุรุษได้อย่างเดียว (上古祭祀天地水是皇帝的權利 ,庶民百姓只能祭祖) อย่างไรก็ตามการบูชา 三官大帝 นั้น ก็เข้าถึงชาวบ้าน และป๊อปปูล่าสุดๆ ก็ในสมัยฮั่น (漢朝時期)เนื่องจาก เตียวเทียนซือ(正一天師張道陵) เอาพิธีกรรมนี้มาเผยแผ่ให้ชาวบ้านครับ โดยสมัยนั้นเมื่อเกิดเหตุเภทภัย โรคระบาดต่างๆ เตียวเทียนซือจะประกอบพิธีกรรมร่วมกับชาวบ้านเพื่อบูชา ส่ำกวนไต่เต่ 三官大帝 เพื่อให้ภัยภิบัติบรรเทาหรือหายไป โดยจะทำ เป็นหนังสือที่เรียกว่า 三官手書 (หนังสือเขียนด้วยลายมือ) สามเล่ม แล้วเอาไปไว้บนภูเขา, ฝังดิน และให้จมลงในแม่น้ำครับ ต่อมาในสมับราชวงศ์เหนือใต้ ส่ำกวนไต่เต่ก็ได้ถูกเอามารวมกับ 上中 下三元神(Spirits of the Three Origins)
天官大帝 หรือ 天官賜福 ในทางเต๋าจะเรียกว่า 上元一品賜福天官 หรือ จื่อเว่ยต้าตี่ 紫微大帝 นั้นเองครับ โดยท่านมีหน้าที่ในการดูแลชี่เขียวเหลืองขาว (青黃白三氣) และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของโลกสวรรค์ โดยในวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนหนึ่งจีน (เพิ่งผ่านมา) ท่านจะลงมาสำรวจบุญบาปในโลกมนุษย์ ครับ (วัน 上元 งัยละครับ)
地官大帝 หรือ 中元二品赦罪地官 หรือ 清虛大帝 หน้าที่ของท่านคือดูแลโลกของดิน และจัดระเบียบชี่ที่เรียกว่า 元洞混靈之氣 (ขออภัย ไม่รู้จะเรียกเป็นภาษาไทยอย่างไร) รวมไปถึงดูแลเทพเจ้าแห่งขุนเขาทั้งห้า และเซียนมนุษย์ (總主五帝五嶽諸地神仙) วันที่สิบห้าเดือนเจ็ด ท่านจะมาที่โลกมนุษย์เพื่อสำรวจบุญบาป
水官大帝 หรือ 下元三品解厄水官 หรือ 洞陰大帝 ผู้ดุแลโลกของน้ำ, ชี่ของลม และทะเลสาปฒ โลกหลังความตาย รวมไปถึงเซียนที่เกิดจากน้ำทั้งหมด ทุกๆวันที่สิบห้าเดือนสิบ ท่านจะลงมาสำรวจบุญบาปในโลกมนุษย์ครับ
แปะเฮาะต่งจื้อ - 白鶴童子
白鶴童子 เป็นรูปแบบ (form หรือคนไทยเรียกว่า ปาง หรือ อวตาร) หนึ่งของเซียนนกกระเรียนขาวครับ จากตำนานได้กล่าวไว้ว่า กระเรียนขาวนี้ได้บำเพ็ญเพียรที่เขาคุนหลุน(崑崙山)จนสำเร็จเป็นเซียน
วันหนึ่ง 白鶴童子 ในร่างของมนุษย์ได้เดินเล่นอยู่บนเขาคุนหลุน ชมวิวชิวๆ จนลืมดูทาง ได้เกิดพลัดตกลงเหวลึก บาดเจ็บจนปีกหักสลบไป แต่เมื่อตื่นขึ้นมา ปรากฎอัศจรรย์ว่าท่านไม่ปวดหรือบาดเจ็บเหมือนตอนแรกตกลงมา
ขณะ ที่ 白鶴童子 กำลังประหลาดใจอยู่นั้น ท่านก็เห็นเซียนวิเศษท่านหนึ่งนั้นก็คือ ฉางเซิงต้าตี้ (長生大帝) หรือ โซ่วซิง (壽星) นั้นเอง ท่านจึงนั่งคุกเข่าและขอบคุณเซียน 壽星 ที่ช่วยเหลือท่าน และขอติดตาม 長生大帝 เพื่อปรณนิบัติและศึกษาเต๋าต่อไป
ตั้งแต่ เหตุการณ์ตกเหว เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญของ 白鶴童子 มาก จนพลังในการใช้ปีกได้หายไป วันหนึ่งขณะที่โซ่วซิงและ 白鶴童子 กำลังเหาะไปสวรรค์อยู่นั้น ก็ผ่านจุดเกิดเหตุคือหน้าผาแห่งนั้นพอดี โซ่วซิงต้องการสอนศิษย์เลยผลัก 白鶴童子 ตกลงจากเมฆที่เหาะอยู่ ขณะที่ 白鶴童子 ตกลงจากเมฆลงไปในหน้าผานั้น ความกลัวเก่าๆของท่านก็ปุดๆๆๆผุดขึ้นมา ขณะที่ท่านตกใจกลัวนั้น เสียงของ เซียนโซ่วซิงผู้เป็นอาจารย์ ก็ตะโกนลงมาว่า "จงขจัดความกลัวของเจ้า จงใช้พลังของเจ้าทำให้ปีกบินได้อีกครั้ง"
白鶴童子 ได้ยินคำสั่งสอนของ อาจารย์ ก็ตั้งสติขจัดความกลัว รวมพลังจิตให้เป็นสมาธิ รวบรวมพลังไปสู่แผ่นหลัง ทันใดนั้น ท่านก็สามารถลอยตัวอยู่บนอากาสได้ และสำเร็จเป็นเซียน
ดังนั้นชาว บ้านจึงนับถือท่าน ในความเป็น สัญญลักษณ์ของความกล้าหาญในการต่อสู้กับความกลัวในจิตใจ อีกทั้งรวมไปถึงสัญลักษณ์ของพลังพิเศษต่างๆด้วย
อีก ตำนานหนึ่ก็บอกว่าท่านเป็นศิษย์คนแรกและคนเดียวที่เป็นสัตว์ของ ง่วนสีเทียนจุน (元始天尊) ว่ากันว่าท่านมีความฉลาดมาก ง่วนสีเทียนจุนให้ทำอะไรหรือสอนอะไรก็จะจดจำและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว จนท่านสำเร็จเต๋า ก้ได้ช่วยงานทางด้านงานขีดๆเขียนๆให้กับง่วนสีเทียนจุน เช่นการทำรายงานเตือนพวกเทพต่างๆในโลกสวรรค์ หรือทำรายงานส่งไปตามโลกต่างๆเป็นตั้น
ดังนั้นบางครั้งดเวลาเราเห็นการตั้งปะรำพิธีที่มีซานชิงอยู่ มักจะมีรูปกิมสิ้นเล็กๆของ กุมารกะเรียนขาวน้อย นี้อยู่ด้วยนั้นเองครับ
บันทึก กับกุมารกระเรียนขาวนี้ มีอยู่ในพระไตรปิฎกของเต๋า เรียกว่า เต้าจ่าง Taoist Canon (Daozang 道藏) ซึ่งจะมีเรื่องราวของเทพเจ้าที่เราไม่คุ้นเคยอยู่มากมาย เต้าจ่างนี้ปัจจุบันไม่มีการตีพิมพ์ออกมาแล้ว จะหาได้คงจากไต้หวันหรือฮ่องกงครับ
วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
เตียวฮู้อ๋องเอี๋ย - 張府王爺
บู้อันจุนอ๋อง (武安尊王) หรือ ตูเทียนไต่เต่ (都天大帝) หรือ โปอี๋จุนอ๋อง (保儀尊王) หรือ เตียวฮู้เชียนโส่ย หรือ เตียวฮู้อ๋องเอี๋ย (張府千歲, 張府王爺) มีชื่อจริงว่า เตียวซุ่น (張巡) เกิดในสมัยราชวงศ์ถัง ประมาณปี ค.ศ.708 (生于唐朝中宗年間) ณ บ้านหย่งจี๋ มณฑลซานซี (家鄉於山西省永濟)
ปี ค.ศ. 713 เตียวซุ่นสอบเข้ารับราชการในราชสำนักถัง และได้ทำงานเป็นข้าราชการในส่วนการให้การศึกษาแก่รัชทายาท จนถึงปี ค.ศ. 741 (任職太子通事舍人)
ปี ค.ศ. 742 เตียวซุ่น ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานปกครอง ณ บ้านชิงเหอ มณฑลเหอเป่ย (被派任為河北省清河縣令) ในช่วงที่ท่านอยู่ที่เหอเป่ย ท่านได้สร้างความดีความชอบ ช่วยเหลือประชาชนในการปราบปรามกลุ่มคนอันธพาล และโจรผู้ร้าย เป็นอันมาก
ปี ค.ศ. 755 เตียวซุ่นกลับเข้ารับใช้ราชสำนัก ซึ่งในขณะนั้น ฮ่องเต้ถังเสวียนจง (唐玄宗) ซึ่งมัวเมากับหยางกุ้ยเฟย ยอดหญิงงามแห่งยุคนั้น โดยให้งานในราชสำนักตกอยู่ในความดูแลของ หยางกั๋วจง (楊國忠) ซึ่งเป็นพี่น้องกับหยางกุ้ยเฟยนั้นเอง ข้าราชการในวังหลวงที่ต้องการเลื่อนตำแหน่งจะต้องเข้าไปติดสินบนหยางกั๋วจง เตียวซุ่นนั้นก็ได้รับการแนะนำให้เข้าไปพบหยางกั๋วจงเพื่อล็อบบี้ขอตำแหน่ง แต่ท่านปฏิเสธและแสดงความรังเกียจขุนนางกังฉินผู้นี้อย่างออกหน้าออกตา จนหยางกั๋วจงไม่พอใจ ปลดตำแหน่งของท่านและไล่ออกจากวังไป
ต่อมาไม่นานนัก เกิดเหตุการณ์กบถอันลู่ซาน (安祿山) จนถังเสวียนจงต้องระเหดออกจากวัง และราชสำนักได้คืนตำแหน่งราชการให้เตียวซุ่นเพื่อให้ท่านมาช่วยปราบกบถ
ปี ค.ศ. 757 ขณะที่ท่านทำการสู้รบอยู่นั้น ท่านได้ถูกข้าศึกล้อมไว้หมดทางหนี ท่านได้ส่งทหารไปขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก แต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะฝ่ายทหารนั้นโดนพวกกังฉินของหยางกั๋วจงกุมอำนาจอยู่ ทำให้ท่านต้องต่อสู้โดดเดี่ยวด้วยตัวเอง
ปี ค.ศ. 757 ขึ้น 9ค่ำ เดือน 10จีน (農曆十月初九日) เตียวซุ่นได้สละชีพปกป้องบ้านเมืองในขณะที่ทำการต่อสู้กับพวกกบถ พร้อมกับนายทหารที่ติดตามไปกับท่าน เช่น ซิวหยวน (許遠 - 許府千歲), หนานฉีหยวน (南齊雲 - 南府千歲) และ เหล่ยหว่านชุน (雷萬春 - 雷府千歲) ก็เสียชีวิตทั้งหมด
จากวีรกรรมอันกล้าหาญ ความดีที่รับใช้ชาติของคนทั้งสี่ ทำให้ชาวบ้านสักการะบูชาทั้งสี่เป็นเทพเจ้า และหลังจากที่ทั้งสี่เสียชีวิต วิญญาณของทั้งสี่ก็ไปสู่สรวงสวรรค์ (天庭) และได้รับการแต่งตั้งเป็นเทพเจ้า (上天敕封)